ดึงหน้า เทคนิคไหนดี ราคาเท่าไหร่ พักฟื้นกี่วัน เตรียมตัวอย่างไรบ้าง

ดึงหน้า เทคนิคไหนดี ราคาเท่าไหร่ พักฟื้นกี่วัน เตรียมตัวอย่างไรบ้าง

การผ่าตัดดึงหน้า (Facelift) หนึ่งในทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูความอ่อนเยาว์และแก้ไขปัญหาริ้วรอย ความหย่อนคล้อยของผิวหนังและกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าและลำคอที่มาพร้อมกับวัย แม้จะเป็นวิธีที่มีมานาน แต่เทคโนโลยีทางการแพทย์ก็ได้ถูกพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น รอยแผลเป็นน้อยลง และฟื้นตัวได้ดียิ่งขึ้น วันนี้เราจะมาเจาะลึกทุกแง่มุมของการผ่าตัดดึงหน้า ตั้งแต่ประเภทของการผ่าตัด การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด ไปจนถึงการดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมว่าต้องทำยังไงบ้าง

Key Takeaways

  • ดึงหน้า (Facelift) คือการศัลยกรรมยกกระชับกล้ามเนื้อชั้นลึก (SMAS) แก้ความหย่อนคล้อยและริ้วรอย ให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ขึ้น
  • เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอยลึก คอมีเหนียง โดยเฉพาะอายุ 40 ปีขึ้นไป
  • เทคนิคยอดนิยม Deep Plane Facelift ยกกระชับลึกถึงชั้น SMAS ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
  • การเตรียมตัวก่อน–หลังผ่าตัด ควรงดยา บุหรี่ แอลกอฮอล์ พักผ่อนเพียงพอ และดูแลแผลตามคำแนะนำแพทย์
  • พักฟื้นประมาณ 2–4 สัปดาห์ แผลซ่อนแนวไรผมและรอบหู ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 7–15 ปี
  • ข้อควรระวัง การดึงหน้าไม่หยุดการชรา และมีความเสี่ยงเช่นเดียวกับการผ่าตัดทั่วไป ควรปรึกษาศัลยแพทย์เฉพาะทางก่อนตัดสินใจ
  • ดึงหน้า Apex Surgery ราคาเริ่มที่ 250,000 บาท
เลือกหัวข้อดึงหน้าที่สนใจ

ดึงหน้า Face Lift คืออะไร

ดึงหน้า (Face Lift) คือ การผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อยกกระชับกล้ามเนื้อ แก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยบริเวณใบหน้าและลำคอ โดยมุ่งเน้นการปรับยกโครงสร้างภายในผิวชั้นลึก หรือชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นพังผืดและกล้ามเนื้อที่มีบทบาทสำคัญต่อความกระชับของผิว ช่วยฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ ลดความหย่อนคล้อย และปรับรูปหน้าให้สมส่วน ดูเป็นธรรมชาติและดูอ่อนเยาว์กว่าเดิม

ดึงหน้าทำส่วนไหนได้บ้าง แต่ละส่วนแก้ปัญหาอะไร

การดึงหน้าช่วยฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ด้วยการยกกระชับเฉพาะส่วนที่มีปัญหา โดยมีจุดเด่นในการแก้ไขปัญหาดังนี้

  • ดึงหน้าผาก (Forehead Lift): ยกกระชับผิวและกล้ามเนื้อเหนือคิ้ว ลดรอยย่นบนหน้าผาก และยกคิ้วที่หย่อนคล้อยให้สูงขึ้น แก้ปัญหาคิ้วตก หนังตาตก ทำให้ดวงตาดูเปิดและสดใสขึ้น
  • ดึงใบหน้าส่วนบน (Upper Facelift): ยกกระชับบริเวณโหนกแก้มและรอบดวงตา ลดริ้วรอยเล็ก เติมความอิ่มเอิบให้แก้ม ช่วยให้ใบหน้าดูสดใสและมีมิติมากขึ้น
  • ดึงใบหน้าส่วนล่าง (Lower Facelift): ยกกระชับผิวบริเวณแก้มและขากรรไกร แก้ร่องแก้มลึก ร่องน้ำหมาก และผิวหย่อนคล้อย ทำให้แนวกรามคมชัด ใบหน้าดูแน่นกระชับ
  • ดึงคอ (Neck Lift): แก้ไขเหนียงและผิวหย่อนบริเวณลำคอ รวมถึงกล้ามเนื้อคอที่ย้อย ทำให้คอตึงเรียวและรับกับใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ

ปัญหาแบบไหนที่เหมาะดึงหน้า

การผ่าตัดดึงหน้าเหมาะสำหรับผู้ที่มีสัญญาณความร่วงโรยแห่งวัยอย่างชัดเจน และวิธีการรักษาแบบไม่ผ่าตัด ไม่สามารถแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกต่อไป โดยทั่วไปผู้ที่ควรทำศัลยกรรมดึงหน้ามักมีปัญหาดังต่อไปนี้

  • ความหย่อนคล้อยของผิวหนังอย่างรุนแรง มีผิวหนังและเนื้อเยื่ออ่อนบริเวณใบหน้าและลำคอที่หย่อนคล้อยลงมามากและไม่สามารถยกกระชับได้ด้วยวิธีอื่น
  • ริ้วรอยร่องลึกที่ชัดเจน เช่น ร่องแก้มลึก ร่องน้ำหมาก ที่เกิดจากการทรุดตัวของโครงสร้างใบหน้า
  • แนวขากรรไกรไม่คมชัด มีเนื้อเยื่อไขมันและผิวหนังที่หย่อนลงมากองอยู่บริเวณขอบล่างของกราม ทำให้ใบหน้าส่วนล่างดูเป็นสี่เหลี่ยมหรือขาดความกระชับ
  • คอหย่อนคล้อยและมีเหนียง มีผิวหนังบริเวณคอที่หย่อนยานมาก มีริ้วรอยตามแนวนอน หรือมีลำคอไก่งวง ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อแพลทิสมาที่แยกออกจากกันและทำให้คอมีลักษณะเป็นเส้นริ้ว
  • คิ้วและหางตาตกมาก ในกรณีที่ต้องการแก้ไขบริเวณหน้าผากและคิ้วควบคู่ไปด้วย เพื่อให้ใบหน้าส่วนบนดูสดใสและดวงตาดูเปิดกว้างขึ้น

ดูรีวิวดึงหน้าเพิ่มเติมของ คุณดี้ ปัทมา

ใครบ้างที่เหมาะกับการดึงหน้า

การผ่าตัดดึงหน้าเป็นหนึ่งวิธีในการยกกระชับหน้า แต่อย่างไรก็ตามเราควรเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดให้กับตัวเอง ซึ่งบุคคลที่เหมาะในการผ่าตัดดึงหน้ายกกระชับ มีดังนี้

  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยอย่างชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณแก้ม แนวกราม และลำคอ
  • ผู้ที่มีหน้าแก่จากริ้วรอยลึกที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีอื่น
  • หน้าเหี่ยวผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ที่เริ่มมีปัญหาผิวเสื่อมสภาพเนื่องจากอายุที่เพิ่มขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าเทคโนโลยีแบบไม่ผ่าตัด
  • ผู้ที่ต้องการปรับปรุงบุคลิกภาพและความมั่นใจในชีวิตประจำวัน
  • ผู้ที่เข้าใจข้อจำกัดของการผ่าตัด เข้าใจว่าการผ่าตัดไม่สามารถหยุดยั้งความชราได้

เทคนิคการผ่าตัดดึงหน้า มีอะไรบ้าง

การผ่าตัดดึงหน้าเป็นวิธีที่มีมายาวนาน แต่ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาเป็นตัวช่วยในการผ่าตัด หรือทำให้ผลลัพธ์จากการผ่าตัดดีขึ้น ซึ่งเทคนิคการดึงหน้าในปัจจุบัน มีดังนี้

  • การศัลยกรรมดึงหน้าแบบ Deep Plane Face Lift (DFL)  เป็นการดึงหน้าที่เข้าไปปลดล็อกใต้กล้ามเนื้อชั้น SMAS ผลลัพธ์อยู่ได้นาน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยมากและต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน
  • การศัลยกรรมดึงหน้าแบบ Mini Facelift เป็นเทคนิคสำหรับผู้ที่มีปัญหาหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง ใช้การผ่าตัดเล็กและการฟื้นตัวเร็วกว่า
  • การศัลยกรรมดึงหน้าด้วยการส่องกล้อง (Endoscopic Facelift) เป็นการใช้กล้องขนาดเล็กช่วยในกระบวนการผ่าตัด ทำให้แผลมีขนาดเล็กและลดระยะเวลาการฟื้นตัว
  • เทคนิคศัลยกรรมดึงหน้าร่วมกับการดูดไขมัน (Facelift with Liposuction) เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมบนใบหน้าหรือคาง โดยทำการดูดไขมันหน้าและยกกระชับพร้อมกัน
  • การศัลยกรรมดึงหน้าด้วยเลเซอร์ (Laser Facelift) ใช้เลเซอร์ช่วยกระชับผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวไม่กระชับเล็กน้อย

ดึงหน้าเทคนิค Deep Plane Facelift ที่ Apex Surgery ดียังไง

โปรแกรม Deep Plane Facelift คือการผ่าตัดยกกระชับใบหน้าในชั้นลึก (ใต้ชั้น SMAS) โดยไม่ได้ดึงแค่ผิวหนังด้านนอกอย่างเดียว ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยได้อย่างตรงจุดและให้ผลลัพธ์ที่เหนือกว่าการดึงหน้าแบบดั้งเดิม ซึ่งข้อดีของเทคนิค Deep Plane Facelift มีดังนี้

  • ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ เนื่องจากเป็นการยกกระชับทั้งชั้นกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อที่หย่อนคล้อยให้กลับคืนสู่ตำแหน่งเดิมพร้อมกัน โดยไม่ต้องอาศัยแรงดึงตึงที่ผิวหนังด้านนอกมากเกินไป
  • แก้ไขปัญหาได้ครอบคลุม เทคนิคนี้สามารถ ยกกระชับใบหน้าส่วนกลาง (Midface) ที่มักจะหย่อนคล้อยได้ดีกว่าเทคนิคอื่น โดยเฉพาะร่องแก้มลึก และช่วยให้กรอบหน้าชัดเจนขึ้น
  • ผลลัพธ์ยาวนานกว่าเทคนิคดั้งเดิม การปรับตำแหน่งของโครงสร้างชั้นลึกที่ยึดอยู่กับที่ ทำให้ผลลัพธ์ของการดึงหน้าสามารถอยู่ได้ยาวนานกว่าอย่างเห็นได้ชัด
  • ลดความเสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็นดึงรั้ง เนื่องจากชั้นผิวหนังด้านนอกไม่ต้องรับภาระในการดึงตึงมากเท่าเทคนิคเก่า แรงตึงที่แผลจึงลดลง ทำให้แผลเป็นดูจางลง

ลักษณะของแผลดึงหน้า

ความกังวลอีกอย่างของผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดดึงหน้าคือเรื่องของแผลดึงหน้า แต่ด้วยเทคนิคสมัยใหม่ ศัลยแพทย์จะออกแบบและซ่อนแนวแผลเป็นอย่างระมัดระวัง เพื่อให้มองเห็นได้ยากที่สุด แนวแผลเป็นจากการดึงหน้าจะถูกซ่อนอยู่ตามแนวธรรมชาติของใบหน้า โดยมีลักษณะดังนี้

  • ซ่อนตามแนวไรผมบริเวณขมับ แผลจะเริ่มต้นจากบริเวณขมับหรือไรผมด้านบน โดยศัลยแพทย์จะพยายามทำให้แนวแผลเป็นกลมกลืนไปกับแนวผมตามธรรมชาติ
  • เดินตามแนวโค้งหน้าหู แผลจะถูกนำลงมาตามแนวโค้งและรอยพับธรรมชาติที่อยู่ด้านหน้าของใบหู หรืออาจซ่อนอยู่ภายในรอยพับเล็ก ๆ ของกระดูกอ่อนหู (Tragus)
  • อ้อมไปด้านหลังติ่งหู จากด้านหน้าหู แผลจะถูกนำไปอ้อมผ่านด้านหลังของติ่งหู ซึ่งเป็นบริเวณที่ผิวหนังมีความอ่อนนุ่มและซ่อนรอยได้ดี
  • ซ่อนตามแนวไรผมด้านหลังหู แผลจะเดินต่อไปด้านบนตามแนวร่องด้านหลังใบหู และสิ้นสุดที่แนวไรผมหรือภายในเส้นผมด้านหลังศีรษะ
  • แผลใต้คาง หากมีการทำศัลยกรรมยกกระชับคอ (Neck Lift) ควบคู่กัน อาจมีแผลเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ใต้คางเพียงเล็กน้อย

ความเสี่ยงและผลข้างเคียงของการดึงหน้า

ถึงแม้ว่าการผ่าตัดดึงหน้าจะเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ได้ยาวนานเมื่อเปรียบเทียบกับวิธีอื่นในการยกกระชับ แต่ก็มีความเสี่ยงมีข้อเสียของการดึงหน้าหลายอย่างที่ควรจะต้องรู้ก่อนที่จะตัดสินใจทำ ดังนี้

  • เกิดการติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัด หากไม่ดูแลความสะอาดอย่างเหมาะสม
  • มีแผลเป็นที่ชัดเจนหรือแผลเป็นนูน
  • เกิดอาการชา หรือในบางกรณีเส้นประสาทอาจได้รับผลกระทบ
  • เกิดเลือดคั่งหรืออาการบวมมากบริเวณแผล
  • การหายของแผลที่ล่าช้า พบได้ในผู้ที่สูบบุหรี่หรือมีโรคประจำตัว
  • เกิดความไม่สมดุลของใบหน้าจากกระบวนการผ่าตัดหรือการฟื้นตัว

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดดึงหน้า

การเตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อมเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เนื่องจากการเตรียมตัวที่ดีจะทำให้เราไม่เกิดอาการบาดเจ็บมากกว่าที่ควรจะเป็น รวมไปถึงยังสามารถลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งการเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมดึงหน้า มีดังนี้

  • ตรวจสุขภาพและแจ้งประวัติการใช้ยา ผู้ป่วยต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพร่างกายและตรวจเลือดตามที่แพทย์กำหนด เพื่อประเมินความพร้อมก่อนการผ่าตัด
  • งดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ได้แก่ยาแอสไพริน ยาต้านการอักเสบ (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน รวมถึงวิตามินอี น้ำมันปลา หรือสมุนไพรบางชนิด อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนการผ่าตัด เพื่อป้องกันภาวะเลือดออกง่ายผิดปกติ
  • งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนและหลังการผ่าตัด เนื่องจากสิ่งเหล่านี้จะรบกวนการไหลเวียนของเลือด ทำให้แผลหายช้าและเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
  • เตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อม ในคืนก่อนการผ่าตัด ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายไม่เหนื่อยล้า และในวันผ่าตัด งดน้ำและอาหาร ตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
  • จัดเตรียมสิ่งของสำหรับวันผ่าตัด ในวันผ่าตัด ควรสวมเสื้อผ้าที่มีกระดุมหรือซิปด้านหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการสวมใส่ที่ต้องถอดผ่านศีรษะ และควรถอดเครื่องประดับทุกชนิดก่อนเข้ารับการผ่าตัด
  • การเตรียมผู้ดูแล ควรจัดเตรียมผู้ดูแล ที่สามารถพามาส่งและพาผู้ป่วยกลับบ้านได้ในวันผ่าตัด และสามารถช่วยดูแลผู้ป่วยได้ในช่วง 1-2 วันแรกหลังการผ่าตัด

ขั้นตอนการดึงหน้า

การผ่าตัดดึงหน้าเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยความละเอียดอ่อนและวางแผนเป็นอย่างดี โดยทั่วไปกระบวนการทั้งหมดจะแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอนหลัก ดังนี้ 

ปรึกษาแพทย์ผ่าตัดดึงหน้า

การปรึกษาแพทย์

ในขั้นตอนแรกนี้ ศัลยแพทย์จะทำการประเมินสภาพผิวหนัง โครงสร้างใบหน้า และระดับความหย่อนคล้อย พร้อมทั้งสอบถามถึงความกังวลและความคาดหวังของผู้เข้ารับบริการ จากนั้นจึงนำข้อมูลทั้งหมดมาใช้ในการวางแผนผ่าตัดที่เหมาะสมที่สุด เช่น การเลือกใช้เทคนิค การกำหนดจุดเปิดแผล และการออกแบบรูปหน้าที่ต้องการ
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดดึงหน้า

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด

เมื่อตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดแล้ว ศัลยแพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนผ่าตัดอย่างละเอียด ซึ่งรวมถึงการงดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด การงดบุหรี่และแอลกอฮอล์ การตรวจสุขภาพ และการ เตรียมความพร้อมด้านการดูแลตัวเอง การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้อย่างเคร่งครัดจะช่วยลดความเสี่ยงและเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการผ่าตัด
การผ่าตัดดึงหน้า

การผ่าตัด

หลังจากวิสัญญีแพทย์ทำการดมยาสลบให้แก่ผู้ป่วยแล้ว ศัลยแพทย์จะเริ่มทำการผ่าตัดโดยการ เปิดแผลตามแนวไรผมและรอบหู เพื่อซ่อนรอยแผล จากนั้นจะทำการเลาะและยกกระชับกล้ามเนื้อชั้นลึก หรือเนื้อเยื่อที่เกี่ยวข้อง เพื่อปลดล็อกจุดยึดที่ทำให้ใบหน้าหย่อนคล้อย เมื่อทำการเย็บยกกระชับโครงสร้างด้านในเรียบร้อยแล้ว จึงเย็บปิดซ่อนรอยแผลที่ผิวหนังด้านนอก
การดูแลหลังผ่าตัดดีงหน้า

การดูแลหลังผ่าตัด

ทันทีหลังการผ่าตัด ผู้ป่วยจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด และศัลยแพทย์จะสั่งจ่ายยาต่าง ๆ เช่น ยาแก้ปวดและยาปฏิชีวนะ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน ผู้ป่วยควรรับประทานยาอย่างเคร่งครัดและปฏิบัติตามแนวทางการดูแลแผล การลดอาการบวมช้ำ และสวมผ้ารัดใบหน้า ตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อให้แผลหายเร็ว ลดอาการบวม และให้ผลลัพธ์การยกกระชับคงที่

หลังผ่าตัดดึงหน้า ต้องปฏิบัติตนอย่างไร

การดูแลตัวเองที่ดี จะส่งผลให้ผลลัพธ์หลังจากการผ่าตัดออกมาดี ทำให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ ซึ่งการปฏิบัติตนหลังศัลยกรรมดึงหน้า มีดังนี้

  • การพักผ่อนและท่าทางการนอน ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอและนอนยกศีรษะให้สูงกว่าระดับหัวใจ โดยใช้หมอนหนุน 2-3 ใบในช่วงสัปดาห์แรก
  • จัดการอาการบวมและรอยช้ำ แพทย์อาจแนะนำให้ประคบเย็นบริเวณรอบ ๆ แผลอย่างระมัดระวังในช่วง 48 ชั่วโมงแรกเพื่อช่วยบรรเทาอาการและทำให้รอยช้ำจางลง
  • การดูแลบาดแผล ต้องรักษาความสะอาดของแผลอย่างเคร่งครัดตามคำแนะนำของแพทย์ และห้ามให้แผลโดนน้ำโดยตรงจนกว่าแพทย์จะอนุญาต
  • สวมผ้ารัดใบหน้า ตามระยะเวลาที่แพทย์กำหนดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยลดอาการบวมที่เกิดขึ้น ซึ่งผ้ารัดจะช่วยกระชับผิวหนังที่ถูกยกขึ้นให้แนบสนิทกับโครงสร้างภายในได้ดียิ่งขึ้น
  • การรับประทานยาตามคำสั่งแพทย์ ควรรับประทานยาปฏิชีวนะ ยาลดบวม และยาแก้ปวดที่แพทย์จัดให้อย่างครบถ้วนและตรงเวลา
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรงหนัก ควรงดการออกกำลังกายหนัก การยกของหนัก หรือกิจกรรมที่ทำให้หัวใจเต้นเร็วเป็นเวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์
  • ติดตามผลกับแพทย์ ควรมาติดตามผลลัพธ์ของการศัลยกรรมดึงหน้าตามที่แพทย์นัดหมาย ไม่ว่าจะเป็นการตัดไหม การติดตามผล เพื่อที่จะแก้ไขเพิ่มเติม หากผลลัพธ์ไม่ออกมาตามต้องการหรือเกิดภาวะแทรกซ้อน

ระยะเวลาการปฏิบัติตัวหลังทำการผ่าตัดดึงหน้า

การฟื้นตัวหลังการผ่าตัดดึงหน้ามีตารางเวลาที่ชัดเจน ซึ่งศัลยแพทย์จะกำหนดเวลาที่จะต้องมา Follow-up เพื่อให้แน่ใจว่าการสมานแผลเป็นไปตามขั้นตอนและเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น ผู้ป่วยต้องให้ความสำคัญกับการมาตามนัดหมายของแพทย์ อย่างเคร่งครัดดังตัวอย่างต่อไปนี้

  • ช่วง 1-3 วันแรก
    ในช่วงสามวันแรกนี้ ถือเป็นระยะที่ผู้ป่วยจะต้องเข้ารับการรักษาและดูแลบาดแผลอย่างใกล้ชิดที่คลินิกหรือโรงพยาบาล โดยปกติแพทย์หรือพยาบาลจะทำการทำความสะอาดบาดแผลและฉีดยา เช่น ยาปฏิชีวนะหรือยาลดบวม เพื่อป้องกันการติดเชื้อและบรรเทาอาการข้างเคียง การมาทำแผลทุกวันจะช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถประเมินอาการบวมและเลือดออกใต้ผิวหนังได้อย่างดี
  • วันที่ 5
    เมื่อบาดแผลเริ่มประสานตัวและมีความแข็งแรงเพียงพอ ศัลยแพทย์จะนัดผู้ป่วยเข้ามาเพื่อทำการตัดไหมในบางบริเวณ หรืออาจเป็นการตรวจเช็กสภาพแผลโดยรวมก่อนการตัดไหมหลัก การตัดไหมจะช่วยลดอาการตึงที่แผลและช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายตัวมากขึ้น
  • วันที่ 14
    ในช่วงสองสัปดาห์หลังการผ่าตัด อาการบวมและรอยช้ำส่วนใหญ่จะเริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผู้ป่วยจะถูกนัดให้มาติดตามอาการโดยรวม และอาจมีการตัดไหมส่วนที่เหลือ หากยังไม่ได้ตัดทั้งหมด ในวันนี้แพทย์อาจพิจารณาฉีดยา เพื่อควบคุมภาวะแทรกซ้อน หรือสั่งจ่ายยาและครีมลดรอยแผลเป็น เพื่อให้แผลเป็นจางลงและนุ่มขึ้น
  • เดือนที่ 1-2
    เป็นการนัดหมายเพื่อติดตามผลลัพธ์ในระยะยาว โดยที่ใบหน้าจะยุบบวมและเข้าที่มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง การนัดพบแพทย์ในระยะนี้จะช่วยให้ศัลยแพทย์ประเมินว่าผลลัพธ์การยกกระชับเป็นไปตามแผนที่วางไว้หรือไม่ และสามารถให้คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการดูแลผิว การนวดลดบวม หรืออาจมีการฉีดยา หากมีแนวโน้มที่จะเกิดรอยแผลเป็นผิดปกติ

ทำไมต้องดึงหน้าที่โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเอเพ็กซ์

APEX หนึ่งในโรงพยาบาลศัลยกรรม ที่มีประสบการณ์ในด้านการศัลยกรรมมาอย่างยาวนาน เรามีมาตรฐานที่ชัดเจน และใส่ใจในทุกรายละเอียด ซึ่งเหตุผลที่ควรเลือกทำศัลยกรรมดึงหน้าที่โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเอเพ็กซ์ มีดังนี้

  • มีศัลยแพทย์เฉพาะทาง มีศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์โดย นายแพทย์สมบูรณ์ ไหวพริบ เลขใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม: ว. 22713 แพทย์เฉพาะทางสาขาศัลยศาสตร์และศัลยศาสตร์ตกแต่ง
  • มีการดูแลอย่างใกล้ชิด มีการดูแล After Care ต่าง ๆ พร้อมให้คำปรึกษาในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การประเมินก่อนผ่าตัด การผ่าตัด ไปจนถึงการติดตามผลหลังการผ่าตัด ในทุกเคสที่เข้ารับบริการ
  • มีมาตรฐานการบริการเพื่อความปลอดภัย ดำเนินการในพื้นที่โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะทางเอเพ็กซ์ ใบอนุญาตที่  10202000367 ซึ่งมุ่งเน้นการให้บริการที่ถูกสุขอนามัย มีห้องปลอดเชื้อ พร้อมดูแลความสะอาดอย่างเข้มงวด
  • มีรีวิวและความพึงพอใจจากลูกค้า มีผลตอบรับและความประทับใจจากผู้เข้ารับบริการจริง พร้อมภาพก่อน-หลัง ซึ่งแสดงถึงความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นหลังผ่าตัด
นพ.สมบูรณ์ ไหวพริบ

ผ่าตัดดึงหน้า ราคาเท่าไหร่

ดึงหน้าราคาเท่าไหร่ โดยตอนนี้การทำศัลยกรรมดึงหน้าราคาเริ่มเพียง 250,000 บาท โดยคิดราคาส่วนละ 180,000 บาท ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง แนะนำให้สอบถามก่อนใช้บริการทุกครั้ง หากสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถสอบถามข้อมูลได้ค่ะ

ผ่าตัดดึงหน้า ราคาเท่าไหร่

รีวิวก่อนและหลังการดึงหน้า

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล ใช้เป็นตัวอย่างผลจากการเข้ารับรักษาสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดึงหน้า

ในระหว่างการผ่าตัด ผู้ป่วยจะไม่รู้สึกเจ็บปวดเนื่องจากอยู่ภายใต้การใช้ยาสลบหรือการให้ยาระงับความรู้สึก หลังการผ่าตัดเมื่อยาชาหมดฤทธิ์แล้ว อาจมีอาการปวด ตึง และรู้สึกชาบ้าง ซึ่งอาการปวดจะอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ด้วยการรับประทานยาแก้ปวดที่แพทย์สั่งให้ และอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายในไม่กี่วัน
การศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้าจะคงอยู่ได้นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น เทคนิคที่ใช้, อายุ, สภาพผิว, พฤติกรรมการใช้ชีวิต และการดูแลหลังทำศัลยกรรม โดยทั่วไปผลลัพธ์ของการดึงหน้าจะอยู่ได้ค่อนข้างนาน ซึ่งอาจนานได้ประมาณ 5-15 ปี
ต้องดูแลเป็นพิเศษใน 7 วันแรก และมีระยะเวลาพักฟื้นอยู่ที่ประมาณ 2-4 สัปดาห์ โดยผู้ป่วยสามารถกลับไปทำกิจกรรมเบาๆ ได้ภายใน 1 สัปดาห์ แต่อาจต้องหลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักและแสงแดดจัดในช่วงพักฟื้น
ต้องดูแลเป็นพิเศษใน 7 วันแรก และมีระยะเวลาพักฟื้นอยู่ที่ประมาณ 2-4 สัปดาห์ โดยผู้ป่วยสามารถกลับไปทำกิจกรรมเบาๆ ได้ภายใน 1 สัปดาห์ แต่อาจต้องหลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักและแสงแดดจัดในช่วงพักฟื้น
สามารถทำได้ แต่ต้องเว้นระยะห่างจากการผ่าตัดครั้งก่อนอย่างเหมาะสม โดยทั่วไปควรเว้น 7-10 ปีขึ้นไป เนื่องจากผิวหนังและโครงสร้างใบหน้าจะกลับมาหย่อนคล้อยตามวัยอีกครั้ง การดึงหน้าซ้ำมักจะทำได้ง่ายขึ้น แต่ต้องได้รับการประเมินจากศัลยแพทย์ก่อน
การผ่าตัดดึงหน้าไม่สามารถแก้โรคชราหรือหยุดยั้งกระบวนการชราได้ แต่เป็นการทำให้รูปลักษณ์ภายนอกดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงเท่านั้น การดึงหน้าช่วยแก้ไขสัญญาณความร่วงโรยที่ปรากฏ เช่น ความหย่อนคล้อยและริ้วรอยลึก แต่กระบวนการเสื่อมสภาพของเซลล์และโครงสร้างต่าง ๆ ในร่างกายยังคงดำเนินต่อไปตามธรรมชาติ
ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด วรหลีกเลี่ยงการนอนตะแคง และควรนอนหงายโดยยกศีรษะให้สูงกว่าลำตัว การนอนตะแคงจะเพิ่มแรงกดและแรงเสียดทานบริเวณบาดแผลและใบหน้า ซึ่งอาจเพิ่มอาการบวมช้ำ และรบกวนการสมานแผลได้
ความเสี่ยงที่พบได้ทั่วไปคืออาการบวม ฟกช้ำ หรืออาการชาบางจุดชั่วคราว ซึ่งจะดีขึ้นตามเวลา กรณีหายากอาจมีการติดเชื้อหรือเกิดแผลเป็นที่ต้องการการดูแลเพิ่มเติม
สามารถทำร่วมกับการผ่าตัดเปลือกตา ยกคิ้ว หรือฉีดไขมันเพื่อปรับสมดุลและสร้างความสมบูรณ์ให้ใบหน้าได้ โดยแพทย์จะวางแผนให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ป่วย

สรุป ทำศัลยกรรมดึงหน้าดีไหม

การศัลยกรรมดึงหน้า ถือเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูความอ่อนเยาว์และเห็นผลชัดเจน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าและลำคอหย่อนคล้อย หรือมีริ้วรอยร่องลึกที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีอื่น ข้อดีคือผลลัพธ์ที่ยาวนาน ดูเป็นธรรมชาติ และช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในบุคลิกภาพให้กลับมาดูสดใสอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจทำศัลยกรรมนี้ควรมาพร้อมกับการเตรียมตัวที่ดี ความเข้าใจในข้อจำกัด และการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดทั้งก่อนและหลังการผ่าตัดเพื่อผลลัพธ์ที่ดี

หากใครที่สนใจศัลยกรรมดึงหน้าที่โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเอเพ็กซ์ สามารถจองคิวเพื่อสอบถามและปรึกษากับศัลยแพทย์ หรือใครที่มีข้อสงสัยและคำถามเพิ่มเติม สามารถทักเข้ามาสอบถามได้เลยค่ะ

ช่องทางการติดต่อ

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัท ฯ กำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับ APEX Surgery Hospital : โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเอเพ็กซ์ สาขาเพลินจิต

ดึงหน้ากับโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเอเพ็กซ์ (Apex Surgery)

มั่นใจในมาตรฐานโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง มีให้บริการ 2 สาขา ทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัย ช่วยออกแบบดึงหน้าให้สวยอย่างดูเป็นธรรมชาติและได้รับการดูแลที่ปลอดภัย

APEX Surgery Hospital สาขาเพลินจิต

โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะทางเอเพ็กซ์ เพลินจิต

Apex Surgery Hospital Phuket

โรงพยาบาลเฉพาะทางศัลยกรรมเอเพ็กซ์ ภูเก็ต

รีวิวดึงหน้าเพิ่มเติม
รีวิวดึงหน้าชั้นลึก Apex Surgery

รวมรีวิวดึงหน้าชั้นลึก แชร์ประสบการณ์ตรงจากเคสจริง

การตัดสินใจทำศัลยกรรมดึงหน้าเพื่อยกกระชับ ลดความหย่อนคล้อย ให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องอาศัยข้อมูลรอบด้าน ดังนั้นข้อมูลจากผู้ที่มีประสบการณ์ตรง

อ่านต่อ »
รีวิวดึงหน้า

รีวิวดึงหน้าซ่อนแผล คุณสุนันทา อดีตนางงามในวัย 71 ปี

การตัดสินใจย้อนเวลาให้ใบหน้าไม่เคยมีคำว่าสายเกินไป เรื่องราวที่พิสูจน์คำพูดนั้นได้ดีที่สุดจาก คุณสุนันทา กลิ่นสุคนธ์ อดีตนางงามและนักแสดงมากฝีมือที่วันนี้ในวัย 71 ปี

อ่านต่อ »
รีวิวดี้ปัทมาดึงหน้า

สวยตามรอยรีวิว ดี้ ปัทมา ดึงหน้าครั้งใหญ่ ที่ APEX

ใคร ๆ ก็อยากดูดี ดูอ่อนกว่าวัยกันทั้งนั้นใช่ไหมคะ หนึ่งในนั้นก็คือนักแสดงรุ่นใหญ่มากความสามารถอย่าง คุณดี้ ปัทมา ปานทอง ที่วันนี้ตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต

อ่านต่อ »
บทความดึงหน้าเที่น่าสนใจ
ดึงหน้า VS เครื่องยกกระชับ

ดึงหน้า VS เครื่องยกกระชับ ต่างกันอย่างไร

การดึงหน้ายังคงเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทำให้มีทางเลือกอื่น ๆ เพิ่มเติมเข้ามา

อ่านต่อ »
ดึงหน้าหมอไหนดี

ดึงหน้าหมอไหนดี แจกทริคเลือกหมอ ให้หน้าตึงสวย ดูเป็นธรรมชาติ

การตัดสินใจผ่าตัดดึงหน้าเพื่อแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย ให้กลับมาดูกระชับ อาจไม่ใช่เรื่องยากเพราะบริการที่เข้าถึงง่าย และมีตัวเลือกหลากหลาย

อ่านต่อ »
แผลดึงหน้า อยู่ตรงไหน

แผลดึงหน้าอยู่ตรงไหน เปิดตำแหน่งรอยแผล พร้อมวิธีดูแลให้สวยเนียน

การทำศัลยกรรมดึงหน้า (Facelift) เพื่อยกกระชับใบหน้า เป็นหนึ่งในหัตถการที่ได้รับความนิยม แต่หนึ่งในข้อกังวลใจสำคัญที่หลายคนมักสอบถามก่อนตัดสินใจ

อ่านต่อ »
ข้อห้ามหลังดึงหน้า

ข้อห้ามหลังดึงหน้าที่ควรรู้มีอะไรบ้าง รีบเช็กก่อนจะสาย

ในยุคที่การผ่าตัดดึงหน้าเป็นเรื่องที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายเพื่อคืนความสดใส แม้ฝีมือของแพทย์จะยอดเยี่ยมเพียงใด แต่สิ่งสำคัญของผลลัพธ์นั้นอยู่ที่ช่วงเวลาหลังผ่าตัด

อ่านต่อ »
รับคำปรึกษาฟรี
เมื่อลงทะเบียนถือว่าท่านยอมรับ เงื่อนไขการใช้บริการ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว