โปรแกรมฉีดโบท็อก เคล็ดลับผิวอ่อนเยาว์ ที่ไม่ควรพลาด

ฉีดโบท็อก

ปัญหาริ้วรอยหรือความหย่อนคล้อยบนใบหน้า ดูจะเป็นเรื่องที่เลี่ยงได้ยาก เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น หรือถูกกระตุ้นด้วยปัจจัยต่าง ๆ สร้างความกังวลใจให้กับใครหลายคน ซึ่ง APEX มีเคล็ดลับเพื่อผิวอ่อนเยาว์ ที่จะช่วยให้ทุกคนมั่นใจได้มากขึ้น ด้วยโปรแกรมฉีดโบท็อก โปรแกรมโบท็อกลดริ้วรอย และยกกระชับหน้า ตัวช่วยที่ได้รับความนิยม ด้วยประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอย และแก้ไขปัญหาผิวต่าง ๆ ได้อย่างตรงจุด ซึ่งมีวิธีการเตรียมตัวก่อนฉีดหน้าอย่างไร เพื่อให้ผลลัพธ์ตอบโจทย์มากที่สุด เรารวมมาให้แล้ว

สารบัญโปรแกรมฉีดโบท็อก

โปรแกรมฉีดโบท็อก (Botox) คืออะไร ? ทำไมถึงช่วยลดริ้วรอยได้

คือการฉีดสาร Botulinum Toxin Type A ซึ่งเป็นสารสกัดจากแบคทีเรียสายพันธุ์เฉพาะ ในรูปแบบของโปรตีนชนิดหนึ่ง มีคุณสมบัติในการควบคุมและลดการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้ริ้วรอยที่เกิดจากการหดตัวลดเลือนลง นอกจากนั้นก็ยังลดการสร้างสารสื่อประสาท ที่กระตุ้นการทำงานของต่อมเหงื่อและต่อมไขมัน ทำให้สามารถนำมาใช้ในการรักษาอาการเหงื่อออกมาก ลดกลิ่นตัว ช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้น จึงลดความมันบนใบหน้าได้อีกด้วย

เคล็ดลับผิวอ่อนเยาว์ด้วยโปรแกรมฉีดโบท็อกที่ APEX

สำหรับใครที่ต้องการผิวเรียบเนียน ลดริ้วรอยบนใบหน้า ดูอ่อนเยาว์ การฉีดหน้าด้วยโปรแกรมโบท็อกลดริ้วรอย คือทางเลือกยอดนิยมที่ช่วยลดริ้วรอย ยกกระชับหน้า ให้ดูสมส่วนได้มากขึ้น ซึ่งที่ APEX เรามีโปรแกรมฉีดหลากหลายตำแหน่ง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างของแต่ละบุคคล ดังนี้

โปรแกรมฉีดโบท็อกลดริ้วรอย (Wrinkle Reduction)

  • โปรแกรมฉีดโบหน้าผาก (Forehead Lines) : ช่วยลดริ้วรอยบนหน้าผาก ที่เกิดจากการเลิกคิ้ว ใช้ประมาณ 10-20 ยูนิต
  • โปรแกรมฉีดโบลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว (Glabellar Lines) : ช่วยลดริ้วรอยย่นหว่างคิ้ว ที่ทำให้หน้าดูบึ้งตึง ใช้ประมาณ 15-25 ยูนิต
  • โปรแกรมฉีดโบลดริ้วรอยหางตา (Crow’s Feet) : ช่วยลดรอยตีนกาบริเวณหางตา ใช้ประมาณ 5-15 ยูนิต/ข้าง
  • โปรแกรมฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา (Under Eye Wrinkles) : ช่วยลดริ้วรอยใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ สดใส ใช้ประมาณ 2-5 ยูนิต/ข้าง

โปรแกรมฉีดโบท็อกยกกระชับปรับรูปหน้า (Facial Contouring)

  • โปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม (Jaw Reduction) : ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อกราม ทำให้หน้าเรียวเล็กลง ใช้ประมาณ 20-30 ยูนิต/ข้าง
  • โปรแกรมฉีดโบลิฟกรอบหน้า (Nefertiti Lift) : ช่วยยกกระชับกรอบหน้า ลดความหย่อนคล้อยบริเวณลำคอ ทำให้ใบหน้าดูคมชัดขึ้น ใช้ประมาณ 15-25 ยูนิต
  • โปรแกรมฉีดโบยกมุมปาก (Lip Corner Lift) : ช่วยยกมุมปากขึ้น ทำให้ใบหน้าดูอ่อนหวาน สดใส ใช้ประมาณ 2-5 ยูนิต/ข้าง

โปรแกรมฉีดโบท็อกแก้ไขปัญหาอื่น ๆ (Other Concerns)

  • โปรแกรมฉีดโบรักแร้ (Underarm Botox) : ช่วยลดเหงื่อใต้วงแขน ลดกลิ่นตัว ใช้ประมาณ 50-100 ยูนิต/ข้าง
  • โปรแกรมฉีดโบปีกจมูก (Nasal Flare Reduction) : ช่วยลดขนาดปีกจมูก ทำให้จมูกดูเรียวเล็กลง ใช้ประมาณ 5-10 ยูนิต/ข้าง

ปัจจัยที่มีผลต่อปริมาณยูนิตที่ใช้ ในโปรแกรมฉีดโบท็อก

หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมการทำหัตถการแต่ละครั้งถึงใช้ปริมาณยูนิตไม่เท่ากัน ปัจจัยอะไรบ้างที่เป็นตัวกำหนดปริมาณยูนิตที่ใช้? วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อให้คุณเข้าใจและเตรียมความพร้อมก่อนเข้ารับบริการได้อย่างเหมาะสม

  • ขนาดของกล้ามเนื้อ : กล้ามเนื้อที่มีขนาดใหญ่ ก็อาจต้องใช้ปริมาณยูนิตที่มากกว่า
  • ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ : กล้ามเนื้อที่แข็งแรงมาก ก็อาจต้องใช้ปริมาณโยูนิตซ์ที่มากกว่า
  • ความลึกของริ้วรอย : หากริ้วรอยมีความลึกมา ก็อาจต้องใช้ปริมาณเพิ่มมากขึ้น
  • ความต้องการของแต่ละบุคคล : บางคนอาจต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนมาก ในขณะที่บางคนอาจต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ จึงมีการวางแผนปริมาณที่ต่างกัน
  • ชนิดของผลิตภัณฑ์ : ผลิตภัณฑ์ที่ใช้การฉีดลดริ้วรอย หรือยกกระชับหน้าแต่ละยี่ห้อ อาจมีความเข้มข้นแตกต่างกัน ทำให้ปริมาณที่ใช้ต่างกันออกไป
ฉีดโบท็อก ผลลัพธ์

ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้หลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อก

โปรแกรมโบท็อก เป็นหัตถการเสริมความงามซึ่งเน้นไปที่การลดริ้วรอยบนใบหน้า รวมถึงยกกระชับหน้า เพื่อปรับให้หน้ามีความเรียวสวย เรียบเนียน แลดูอ่อนเยาว์ ซึ่งผลลัพธ์ที่สามารถคาดหวังได้ ก็จะมีอยู่หลากหลาย ดังนี้

  • ลดริ้วรอยบนใบหน้า ให้ผิวเรียบเนียน แลดูอ่อนเยาว์
  • ยกกระชับปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน รูปหน้าดูเรียวขึ้น
  • ลดความหย่อนคล้อย ให้กรอบหน้าดูชัดขึ้น
  • ช่วยยกมุมปาก ให้ใบหน้าโดยรวมมีความสดใส
  • ช่วยลดการทำงานของต่อมเหงื่อ ทำให้เหงื่อออกน้อยลง
  • โปรแกรมโบท็อกปีกจมูก ช่วยลดขนาดปีกจมูก ทำให้จมูกดูเรียวเล็กลง


ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่ได้ในแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับตำแหน่ง ปริมาณยูนิตที่ใช้ในโปรแกรมฉีดโบท็อก รวมถึงปัจจัยเฉพาะของแต่ละบุคคล

เตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อก

สิ่งที่ควรรู้ก่อน-หลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อก

แม้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้ จะมีการทำงานที่ตอบโจทย์ ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ แต่เพื่อผลลัพธ์และประสิทธิภาพการทำงานที่เต็มที่มากที่สุด จำเป็นต้องเตรียมพร้อมและดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมร่วมด้วย ดังนี้

ก่อนทำหัตถการ

  • เลือกใช้บริการกับคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ มีใบอนุญาตถูกต้อง
  • หาข้อมูลเกี่ยวกับหัตถการ และพิจารณารีวิวจากผู้ใช้บริการจริง
  • ประเมินราคาและความคุ้มค่าในระยะยาว
  • แจ้งข้อมูลสุขภาพหรือการใช้ยาทุกครั้ง
  • งดการใช้ยาบางชนิด เช่น แอสไพริน วิตามินอี น้ำมันปลา
  • งดการดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
  • งดการขัดหรือทำเลเซอร์ในบริเวณที่ต้องทำหัตถการ อย่างน้อย 1 สัปดาห์

หลังทำหัตถการ

  • หลีกเลี่ยงการนอนราบ หรือนอนตะแคง
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัส กด นวด หรือคลึง บริเวณที่ฉีด
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนัก หรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออก
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
  • หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่สัมผัสความร้อน เช่น อบไอน้ำ อบซาวน่า ทรีตเมนต์
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานยาบางชนิด เช่น แอสไพริน หรือยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs วิตามินอี น้ำมันปลา
  • ทาครีมบำรุงผิว หรือใช้ผลิตภัณฑ์ช่วยเติมความชุ่มชื้น และอ่อนโยนต่อผิว
  • ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ

โปรแกรมฉีดโบท็อกราคาเท่าไหร่ ? เช็กราคาและโปรโมชันล่าสุด

APEX มีโปรแกรมฉีดโบท็อกราคา 4,900 บาท ต่อ 20 ยูนิต ซึ่งราคาอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้ในแต่ละบริเวณ ความต้องการของแต่ละบุคคล หรือโปรโมชันในขณะนั้น เพื่อความคุ้มค่าและได้รับราคาที่ตรงตามความต้องการ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินและวางแผนการฉีดหน้าก่อนเข้ารับบริการ

  • โปรแกรมฉีดโบท็อกราคา 4,900 บาท ต่อ 20 ยูนิต

Q&A รวมคำถามเกี่ยวกับโปรแกรมฉีดโบท็อก

โดยทั่วไปหลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อก จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงภายในประมาณ 2 สัปดาห์ และเห็นผลเต็มที่หลังผ่านไปประมาณ 2-3 เดือนหลังการฉีด ทั้งนี้ระยะเวลาในการเห็นผลอาจต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และบริเวณที่ทำการฉีด
การฉีดโบท็อกถือว่าค่อนข้างปลอดภัย และมีความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงรุนแรงน้อย ซึ่งโดยปกติแล้วหลังฉีดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงชั่วคราวได้บ้าง เช่น อาการบวมแดง ช้ำ หรือปวดเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด ซึ่งมักหายได้เองภายในไม่กี่วัน ซึ่งถ้ามีการเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ ก็จะช่วยลดความเสี่ยง ให้ทุกคนอุ่นใจในการใช้บริการได้มากขึ้น
หลังทำหัตถการไม่ควรสัมผัส กด นวด หรือคลึง รวมถึงไม่ควรออกกำลังกายอย่างหนัก งดการดื่มแอลกอฮอล์ และทำกิจกรรมที่ต้องสัมผัสความร้อน ทั้งยังมีข้อห้ามสำหรับคนบางกลุ่ม ซึ่งไม่ควรทำโปรแกรมฉีดโบท็อก ได้แก่ ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หญิงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร เป็นต้น
ควรงดนอนราบ หรือนอนตะแคง ในช่วง 3-4 ชั่วโมงแรกหลังการฉีด เพื่อป้องกันไม่ให้ผลลัพธ์หลังทำโปรแกรมโบท็อกกระจายตัวไปยังบริเวณที่ไม่ต้องการ โดยแนะนำให้ทำการบริหารกล้ามเนื้อ หรือทำท่าคล้ายเคี้ยวหมากฝรั่ง เพื่อช่วยให้เกิดการกระจายตัวที่ดีขึ้นแทน

สรุปโปรแกรมฉีดโบท็อกช่วยหน้าอ่อนเยาว์ได้ไหม ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง

โปรแกรมฉีดโบท็อกที่ APEX เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการลดริ้วรอย ยกกระชับหน้า ลดเหงื่อ และกระชับรูขุมขน ด้วยสาร Botulinum Toxin Type A โปรแกรมโบท็อกลดริ้วรอยที่มีคุณสมบัติควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ ดังนั้นจึงทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ โดยแพทย์จะประเมินและแนะนำตำแหน่งฉีดหน้าหรือบริเวณอื่น ๆที่เหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการ ทั้งบริเวณหน้าผาก หว่างคิ้ว หางตา กราม กรอบหน้า รักแร้ หรือปีกจมูก

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับ Apex Clinic สาขาเพลินจิต

ญดา นริลญา Apex Idol
รับคำปรึกษาฟรี
เมื่อลงทะเบียนถือว่าท่านยอมรับ เงื่อนไขการใช้บริการ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว