ใครที่กำลังรู้สึกอึดอัดใจ ว่าทำไมรักษาหลุมสิวไม่หายสักที บางทีคำตอบอาจอยู่ที่พฤติกรรมเล็ก ๆ น้อยๆ ที่คุณมองข้ามไป เพราะพฤติกรรมบางอย่างที่เราทำอยู่ทุกวัน กำลัง ‘ขุดหลุม’ ให้สิวลึกขึ้นโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นวันนี้เราจะมาชวนเช็ก 5 พฤติกรรมทำร้ายผิว ซึ่งอาจเป็นตัวการทำให้หลุมสิวอาการหนักขึ้น พร้อมเรียนรู้ว่าหลุมสิวเกิดจากอะไร และตอบคำถามว่าหลุมสิวรักษาวิธีไหนดีที่สุดแบบตรงจุด เพื่อผิวที่สวยใส มั่นใจได้มากยิ่งขึ้น
หลุมสิวคืออะไร เกิดจากอะไรได้บ้าง
หลุมสิว (Acne Scars) คือร่องรอยที่เกิดขึ้นบนผิวหนังหลังจากสิวหายแล้ว โดยมีลักษณะของผิวที่ไม่เรียบเนียน มีรอยบุ๋ม รอยขรุขระ และอาจมีรูปทรงแตกต่างกันออกไป ซึ่งสร้างความกังวลใจให้กับใครหลาย ๆ คน เพราะทำให้ผิวหน้าดูไม่สวยงาม และขาดความมั่นใจ โดยหลุมสิวเกิดจากหลายปัจจัย ดังนี้
- การอักเสบของสิว โดยเฉพาะสิวหัวช้าง สิวหนอง หรือสิวที่อยู่ลึกใต้ผิวหนัง
- การบีบ แคะ แกะ เกา สิว เป็นพฤติกรรมที่พบบ่อย และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว
- การรักษาหรือการจัดการสิวที่ไม่ถูกต้อง เช่น การใช้ยาที่ไม่เหมาะสม การทำหัตถการที่รุนแรงเกินไป อาจทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้น
- ปัจจัยทางพันธุกรรม อาจทำให้บางคนมีแนวโน้มที่จะเกิดหลุมสิวมากกว่าคนอื่น
- เมื่ออายุมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนในร่างกายจะลดลง ทำให้ผิวไม่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ดีเท่าเดิม ทำให้หลุมดูชัดเจนขึ้น
- การละเลยการดูแลผิว เช่น ไม่ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด ไม่ทาครีมกันแดด หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิว ก็อาจทำให้สิวอักเสบและทำให้เกิดหลุมได้ง่ายขึ้น
ส่อง 5 พฤติกรรมทำร้ายผิว ที่ไม่ควรทำ ถ้าอยากผิวสวย
หลายคนมักเข้าใจว่าการมีผิวสวย ขึ้นอยู่กับการใช้สกินแคร์ราคาแพง หรือทำทรีตเมนต์ด้วยแพ็กเกจพรีเมียม แต่จริงๆ แล้วการจะมีผิวที่ไร้หลุมสิว สามารถเริ่มได้ด้วยตัวเองโดยการปรับเปลี่ยน ‘พฤติกรรม’ ในชีวิตประจำวัน ในหัวข้อนี้เราจะมาดูกันว่ามีพฤติกรรมอะไรบ้าง ที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ถ้าอยากมีผิวสวยสุขภาพดี และไม่ทำให้หลุมเล็ก ๆ ลุกลามจนรักษาหลุมสิวยากในอนาคต
พฤติกรรมที่ 1 : บีบ แคะ แกะ เกา สิวตัวร้าย ทำลายผิวสวย
การบีบสิว นอกจากจะทำให้เกิดการอักเสบแล้ว ยังทำลายคอลลาเจนและเนื้อเยื่อโดยรอบ ทำให้เกิดเป็นหลุมสิวที่ลึกและกว้างกว่าเดิม หากอดใจไม่ไหวจริงๆ ให้ไปกดสิวที่คลินิกกับผู้เชี่ยวชาญดีกว่า เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดหลุม และป้องกันการอักเสบที่อาจลุกลามจนรักษาหลุมสิวได้ยากขึ้นกว่าเดิม
พฤติกรรมที่ 2 : สครับผิวหน้าบ่อยเกินไป
การสครับผิว ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วก็จริง แต่ถ้าทำบ่อยเกินไป จะทำให้ผิวระคายเคืองและอักเสบ ซึ่งผิวที่ระคายเคืองจะไวต่อการเกิดสิว และแม้ว่าสิวจะหายไปแล้ว ก็ยังมีโอกาสเกิดหลุมตามมา ดังนั้นจึงควรสครับผิวหน้าแค่สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว
พฤติกรรมที่ 3 : ละเลยครีมกันแดด ทำลายคอลลาเจน
แสงแดดเป็นศัตรูร้ายของผิว เพราะรังสี UV สามารถทำลายคอลลาเจน ซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงและเรียบเนียน การที่คอลลาเจนถูกทำลาย จะทำให้หลุมที่มีอยู่แล้วดูชัดเจนขึ้น และยังกระตุ้นให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอีกได้ด้วย ดังนั้นการทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นหนึ่งในปราการป้องกันผิว ที่ไม่ควรละเลย
พฤติกรรมที่ 4 : ใช้สกินแคร์ไม่เหมาะผิว สิวบุกรัว ๆ
สกินแคร์หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิว อาจไม่ได้เหมาะกับทุกคนเสมอไป เรื่องจากส่วนผสมและสารสกัดภายใน ซึ่งอาจทำให้เกิดการแพ้ ดังนั้นการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว อาจทำให้เกิดการระคายเคือง อุดตันรูขุมขน และทำให้เกิดสิว และมีโอกาสกลายเป็นหลุมได้ง่ายกว่า
พฤติกรรมที่ 5 : ปล่อยสิวอักเสบเรื้อรัง ผิวพังไม่รู้ตัว
สิวอักเสบที่ไม่ได้รับการรักษา ยิ่งปล่อยไว้นาน ก็ยิ่งทำลายผิว ทั้งยังทำลายโครงสร้างผิวอย่างต่อเนื่อง ทำให้คอลลาเจนและเนื้อเยื่อโดยรอบถูกทำลายมากขึ้นเรื่อย ๆ จนการอักเสบยิ่งรุนแรง ทำผิวเกิดความเสียหายในวงกว้าง เป็นต้นเหตุของหลุมที่รักษายาก ดังนั้นการเลือกหัตถการรักษาหลุมสิวที่ตอบโจทย์ จึงเป็นตัวช่วยผิวใส ที่ไม่ควรมองข้าม
แนะนำวิธีรักษาหลุมสิว ทวงคืนผิวเรียบเนียน มั่นใจ ที่ APEX
หลายคนอาจเคยลองรักษาหลุมสิวมาหลายวิธี แต่อาจจะยังไม่เจอผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ซึ่งที่ APEX เรามีหัตถการสำหรับรักษาหลุมสิว และฟื้นฟูผิวที่หลากหลาย เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็น Pico Majesty, Pico Starwalker, Morhpeus 8 หรือ Sylfirm X Plus และอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหา และความต้องการของแต่ละบุคคล ซึ่งสามารถปรึกษาแพทย์ผู้ให้บริการ เพื่อขอคำแนะนำว่าหลุมสิวรักษายังไงถึงจะเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุดได้
สรุปพฤติกรรมที่ทำให้หลุมสิวลึกมีอะไรบ้าง
หลุมสิวเกิดจากการทำลายคอลลาเจนใต้ผิว การบีบสิว สครับผิวบ่อยเกินไป ละเลยการทากันแดด ใช้สกินแคร์ไม่เหมาะกับผิว และปล่อยสิวอักเสบเรื้อรัง ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นต้นเหตุเล็ก ๆ ที่ทำให้หลุมสิวลึกขึ้น ดังนั้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมควบคู่ไปกับการเลือกหัตถการรักษาหลุมสิวที่เหมาะสม จะลดความเสี่ยง และช่วยให้ผิวกลับมาเรียบเนียน มั่นใจได้อีกครั้ง