คืนหุ่นสวยให้คุณแม่! เจาะลึกปัญหาไขมันสะสม และวิธีดูแลรูปร่างหลังคลอดให้ได้ผล

คุณแม่หลังคลอด
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

หลังคลอดลูก เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายของผู้หญิงต้องการการฟื้นฟูมากที่สุด โดยเฉพาะในเรื่องของรูปร่างและสัดส่วนที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด คุณแม่หลายคนพบว่าต่อให้พยายามควบคุมอาหาร หรือพยายามกลับมาออกกำลังกาย แต่รูปร่างก็ยังไม่กลับมาเหมือนเดิมได้ง่าย ๆ

หนึ่งในปัญหาหลักที่พบบ่อย คือ ไขมันสะสมหลังคลอด ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลต่อรูปร่างภายนอก แต่ยังส่งผลต่อความมั่นใจในชีวิตประจำวันอีกด้วย นี่คือภาวะที่พบได้ใน คุณแม่หลังคลอด แทบทุกคน และเป็นเรื่องที่สามารถดูแลแก้ไขได้ หากเข้าใจต้นตอและเลือกวิธีการดูแลอย่างถูกต้อง

ไขมันสะสมหลังคลอด เกิดจากอะไร?

ในช่วงที่ตั้งครรภ์ ร่างกายของคุณแม่จะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ที่ส่งผลต่อระบบการเผาผลาญพลังงาน และทำให้ร่างกายกักเก็บไขมันไว้เป็นพลังงานสำรอง เพื่อเลี้ยงดูทารกในครรภ์ และรองรับการให้นมหลังคลอด พลังงานส่วนเกินเหล่านี้มักถูกสะสมไว้ในจุดสำคัญ เช่น

  • หน้าท้อง
  • สะโพก
  • ต้นแขน
  • ต้นขา
  • เอว

 

แม้ว่าหลังคลอด น้ำหนักของคุณแม่จะลดลงบ้าง แต่ไขมันเฉพาะจุดเหล่านี้มักไม่ยอมสลายไปง่าย ๆ โดยเฉพาะในกรณีที่มีภาวะฮอร์โมนไม่สมดุลหลังคลอด หรือยังอยู่ในช่วงให้นมบุตร อีกหนึ่งปัญหาที่พบได้บ่อยคือ ภาวะหน้าท้องแยก (Diastasis Recti) ซึ่งเกิดจากการขยายตัวของมดลูกที่กดดันกล้ามเนื้อหน้าท้องจนแยกออกจากกัน พอกล้ามเนื้อยังไม่ฟื้นตัวดี หน้าท้องจึงดูไม่กระชับ ถึงแม้น้ำหนักจะกลับมาอยู่ในเกณฑ์ปกติก็ตาม

ปัญหาที่คุณแม่หลังคลอดต้องเผชิญ

1. พุงยื่น หน้าท้องไม่กระชับ

หลังคลอด หน้าท้องเป็นบริเวณที่คุณแม่หลายคนมักกังวลมากที่สุด แม้น้ำหนักตัวโดยรวมจะกลับมาใกล้เคียงก่อนตั้งครรภ์ แต่ “พุง” หรือหน้าท้องยังคงยื่นออกมา ไม่กระชับเหมือนเดิม นั่นเป็นเพราะไขมันสะสมในชั้นใต้ผิวหนังยังคงอยู่ และกล้ามเนื้อหน้าท้องยังไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะหากเกิดภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยก (Diastasis Recti) ซึ่งเป็นภาวะที่กล้ามเนื้อแนวดิ่งของหน้าท้องถูกดันออกจากกันในระหว่างตั้งครรภ์ ทำให้ยากต่อการฟื้นตัวและกระชับด้วยการออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว

2. ไขมันสะสมเฉพาะจุด

หลังคลอด คุณแม่หลายคนจะพบว่าไขมันที่สะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ต้นแขน เอว สะโพก หรือต้นขา กลายเป็นปัญหาที่จัดการได้ยาก แม้จะพยายามควบคุมอาหาร หรือออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องแล้วก็ตาม ไขมันเฉพาะจุดเหล่านี้มักไม่ตอบสนองต่อวิธีทั่วไป เนื่องจากการเผาผลาญไขมันของร่างกายยังไม่กลับมาทำงานเต็มที่ รวมถึงระดับฮอร์โมนที่ยังไม่สมดุล ทำให้ร่างกายยังมีแนวโน้มสะสมไขมันมากกว่าการเผาผลาญ

3. ผิวหนังหย่อนคล้อย

นอกจากไขมันแล้ว ปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่มักเกิดขึ้นกับคุณแม่หลังคลอด โดยเฉพาะในบริเวณหน้าท้อง ต้นแขน และสะโพก ซึ่งเกิดจากการยืดขยายของผิวหนังในระหว่างตั้งครรภ์ เมื่อคลอดบุตรแล้ว น้ำหนักลดลง ผิวหนังที่เคยขยายอาจไม่สามารถกลับมากระชับได้เหมือนเดิม ส่งผลให้เกิดความหย่อนคล้อย หรือผิวที่ไม่เรียบเนียน แม้จะมีรูปร่างใกล้เคียงกับก่อนตั้งครรภ์ก็ตาม

4. ความมั่นใจที่ลดลง

รูปร่างที่เปลี่ยนไปหลังคลอด ไม่เพียงส่งผลต่อสภาพร่างกาย แต่ยังมีผลกระทบต่อสภาพจิตใจและความมั่นใจของคุณแม่หลายคน ไม่ว่าจะเป็นการใส่เสื้อผ้าที่เคยใส่แล้วรู้สึกไม่มั่นใจ หลีกเลี่ยงการออกงานสังคม หรือรู้สึกกังวลเมื่อถูกมองหรือถ่ายภาพ สิ่งเหล่านี้อาจทำให้คุณแม่รู้สึกไม่พอใจในรูปร่างของตัวเอง และส่งผลต่อคุณภาพชีวิตโดยรวม การดูแลรูปร่างหลังคลอดจึงไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของความสวยงามเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับสุขภาพกายและใจของคุณแม่อีกด้วย

วิธีดูแลรูปร่างหลังคลอดให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี

หลังคลอด คุณแม่หลายคนอาจเผชิญกับปัญหาสัดส่วนที่เปลี่ยนไป ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลต่อรูปลักษณ์ภายนอก แต่ยังมีผลต่อสุขภาพกายและใจ การดูแลรูปร่างอย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญ และสามารถทำได้โดยไม่ต้องหักโหมหรือรีบเร่ง เพียงแค่มีวินัยและใส่ใจในรายละเอียด ดังนี้:

1. ควบคุมอาหารอย่างเหมาะสม

การเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการคือหัวใจสำคัญของการฟื้นฟูรูปร่างหลังคลอด ควรเน้นการรับประทานโปรตีนคุณภาพดี เช่น อกไก่ ไข่ ปลา เต้าหู้ ผักใบเขียว และคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง มันเทศ โควต้าอาหารหวาน ของทอด และอาหารแปรรูป ควรจำกัดให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมไขมันใหม่โดยไม่จำเป็น

2. ออกกำลังกายเบา ๆ อย่างต่อเนื่อง

คุณแม่สามารถเริ่มต้นจากการเคลื่อนไหวแบบเบา ๆ เพื่อช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เช่น โยคะหลังคลอด พิลาทิส หรือการเดินเร็ว ซึ่งไม่เพียงช่วยเผาผลาญพลังงาน แต่ยังช่วยฟื้นฟูความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหน้าท้องและกระดูกเชิงกราน รวมถึงเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับร่างกายอีกด้วย

3. พักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับให้ได้อย่างน้อย 6–8 ชั่วโมงต่อวัน (หรือมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้สำหรับคุณแม่มือใหม่) มีผลโดยตรงต่อการฟื้นตัวของร่างกาย เพราะช่วงเวลาพักผ่อนคือเวลาที่ฮอร์โมนในร่างกายทำงานเพื่อซ่อมแซมและปรับสมดุล เมื่อพักผ่อนไม่พอ จะส่งผลให้เกิดฮอร์โมนเครียด ซึ่งเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้ร่างกายกักเก็บไขมันมากขึ้น

4. ดื่มน้ำมาก ๆ

น้ำเปล่าคือสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย ยังช่วยให้คุณแม่รู้สึกอิ่ม ลดการกินจุบจิบได้ดี และยังช่วยให้ผิวพรรณดูสดใสจากภายใน

การดูแลตัวเองหลังคลอดด้วยวิธีธรรมชาติอย่างสม่ำเสมอเหล่านี้ จะช่วยเสริมพื้นฐานสุขภาพที่ดีและเพิ่มโอกาสให้คุณแม่กลับมามีรูปร่างที่กระชับ สดใส และมั่นใจได้อีกครั้งในระยะยาว แต่สำหรับคุณแม่ที่พยายามควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย และดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่องแล้ว แต่ “ไขมันเฉพาะจุด” อย่างพุง เอว หรือต้นแขนยังคงอยู่ การเลือกใช้ตัวช่วยทางการแพทย์ก็ถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ตัวช่วยสลายไขมันสำหรับคุณแม่หลังคลอด

ในปัจจุบัน เทคโนโลยีด้านการดูแลรูปร่างได้พัฒนาไปไกล มีหลายเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อช่วย “สลายไขมัน” อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคุณแม่หลังคลอดที่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา หรือยังไม่สามารถกลับมาออกกำลังกายหนัก ๆ

หนึ่งในเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยม คือ Program CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น

Program CoolSculpting ทางเลือกของการสลายไขมันของคุณแม่หลังคลอด

Program CoolSculpting คือนวัตกรรมการสลายไขมันด้วยความเย็น (Cryolipolysis) ที่ได้รับการรับรองว่าเป็นวิธีการกำจัดไขมันใต้ผิวหนังแบบชัดเจน โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องดูดไขมัน และไม่ทำลายเนื้อเยื่อบริเวณรอบข้าง ซึ่งใช้ความเย็นเข้ามาใช้ในการสลายไขมันสะสม

หลักการทำงาน: Program CoolSculpting

Program CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น ใช้ความเย็นในระดับที่เหมาะสม ส่งตรงลงไปยังชั้นไขมันใต้ผิวหนัง เพื่อให้เซลล์ไขมันแข็งตัวและเข้าสู่กระบวนการตายแบบธรรมชาติ (Apoptosis) จากนั้นร่างกายจะค่อย ๆ ขจัดเซลล์ไขมันที่ตายแล้วออกผ่านระบบน้ำเหลือง กระบวนการนี้เป็นธรรมชาติ ปลอดภัย และไม่ทำลายผิวหนังบริเวณที่ทำการรักษา

จุดเด่นของ Program CoolSculpting :

  • ค่อนข้างปลอดภัย เหมาะสำหรับคุณแม่ที่เพิ่งคลอด และยังไม่สามารถออกกำลังกายหนักได้
  • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องดูดไขมัน ไม่มีบาดแผล หรือการฉีดใด ๆ
  • ช่วยลดไขมันได้ในบริเวณที่ทำ
  • เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน โดยรูปร่างจะค่อย ๆ กระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
  • ทำได้หลายบริเวณ เช่น หน้าท้อง เอว สะโพก ต้นแขน ซึ่งเป็นจุดที่คุณแม่มักมีปัญหาไขมันสะสม
  • ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติหลังทำ ไม่ต้องหยุดงานหรือพักฟื้น

 

หากคุณเป็นหนึ่งในคุณแม่ที่กำลังมองหาวิธีฟื้นฟูรูปร่างให้กลับมากระชับ มีสัดส่วนสวยงาม และเรียกคืนความมั่นใจอีกครั้ง Program CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น อาจเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ ทั้งในด้านผลลัพธ์ที่ดีต่อรูปร่าง และการทำงานที่ค่อนข้างปลอดภัย และเพื่อให้การดูแลรูปร่างของคุณแม่หลังคลอดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ขอแนะนำให้คุณเข้ารับคำปรึกษากับ แพทย์ และทีม APEX CoolSculpting Specialist ที่มีประสบการณ์ในการดูแลเคสหลังคลอดโดยเฉพาะ พร้อมวิเคราะห์สัดส่วน วางแผนการรักษา และเลือกหัว Applicator ที่เหมาะกับแต่ละบุคคลอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้คุณได้เริ่มต้นเปลี่ยนแปลงรูปร่างอย่างมั่นใจ และมีแนวโน้มเห็นผลลัพธ์ที่คุณคาดหวังได้

เพราะรูปร่างที่ดี… ไม่ใช่เรื่องของโชค แต่คือผลลัพธ์ของการวางแผนอย่างมืออาชีพ เริ่มต้นวันนี้ กับ Program Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น เพื่อคุณแม่ที่มั่นใจในรูปร่างคนใหม่อีกครั้ง ที่ APEX

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับ Apex Clinic สาขาเพลินจิต

แชร์บทความ :
โปรโมชั่นสุดพิเศษ
หมวดหมู่
สาระจากบริการ
บทความล่าสุด
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ยกคิ้ว
บทความน่ารู้

ยกคิ้ว แก้ปัญหาคิ้วตก พร้อมเผยเคล็ดลับศัลยกรรมยกคิ้วที่ควรรู้

คิ้วคือหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของใบหน้า ที่แสดงถึงภาพลักษณ์โดยรวมได้ ซึ่งสำหรับคนที่มีปัญหาคิ้วตก ไม่ว่าจะด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้น

อ่านต่อ »
เลเซอร์ขนแขน
บทความน่ารู้

โปรแกรมเลเซอร์ขนแขน กี่ครั้งเห็นผล ราคาเท่าไหร่ ช่วยอะไรได้บ้าง

หลายคนที่ใช้วิธีการกำจัดขนแขนด้วยการโกนขน ถอน หรือแว็กซ์ มักพบปัญหาขนคุดหรือการระคายเคืองผิวหนัง ซึ่งเกิดจากการดึงขนออกจากราก

อ่านต่อ »
Diode Laser
สาระน่ารู้

โปรแกรม Diode Laser คืออะไร เจาะลึกการทำงาน ข้อดี และสิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ

ปัญหาขนไม่เพียงทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน แต่ยังอาจส่งผลให้เกิดกลิ่นตัว หรือการสะสมของแบคทีเรียในบางตำแหน่ง หากกำจัดขนไม่ถูกวิธีก็อาจนำมาซึ่งปัญหาขนคุด

อ่านต่อ »
ปลูกผมผู้ชาย ปลูกผมผู้หญิง
สาระน่ารู้

ปลูกผมผู้ชาย vs ปลูกผมผู้หญิง ต่างกันอย่างไร คำแนะนำก่อนทำโปรแกรมปลูกผม

โปรแกรมปลูกผม ไม่ใช่แค่เรื่องของความงาม แต่เป็นการแก้ปัญหา “ผมร่วง-ผมบาง” ที่เกิดจากหลากหลายสาเหตุ โดยเฉพาะในผู้ชายและผู้หญิง

อ่านต่อ »
สนใจปรึกษาหรือเข้ารับบริการ

หากสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้เลยค่ะ