สยบทุกปัญหาใต้ตาดำ คล้ำ โทรม ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

“ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ” ในทุก ๆ วันเราต้องใช้ดวงตาเพื่อสื่อสารกับผู้คน ไม่ว่าจะประกอบคำพูด การกระทำ หรืออื่น ๆ แต่ถ้าใครกำลังประสบกับปัญหารอบดวงตา คงทั้งกังวลและสูญเสียความมั่นใจในตัวเองไปไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นใต้ตาคล้ำ ตาลึก ตาโหล ถุงใต้ตา ยิ่งกับริ้วรอยหรือร่องลึกใต้ตาก็ยิ่งแย่ไปกันใหญ่ ซึ่งอาจส่งผลให้ใบหน้าดูหมอง โทรม หรือแก่กว่าวัยไปไกลโข บางครั้งปัญหาเหล่านี้ก็ไม่อาจแก้ได้อยู่หมัดด้วยแค่การหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หรือพึ่งครีมบำรุง ฉะนั้นการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะให้ผลลัพธ์ชัดเจน รวดเร็วทันใจ สยบทุกปัญหารอบดวงตา และช่วยให้ทั้งดวงตาและใบหน้ากลับมาสดใสมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้งง่าย ๆ

เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ปัญหารอบดวงตาก็มักปรากฏโดยธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นรอยดำคล้ำ ดวงตายุบ ลึกโหล ริ้วรอยต่าง ๆ รอบดวงตา หรือถุงใต้ตา ซึ่งนอกจากปัจจัยเรื่องอายุแล้ว ยังอาจเกิดได้จากสาเหตุอื่นอีก ทั้งกรรมพันธุ์ อาการภูมิแพ้ หรือไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ไม่ค่อยส่งผลดีต่อสุขภาพ ด้วยปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ ทั้งเพื่อความงาม ความมั่นใจ และแก้ปัญหาไม่พึงประสงค์รอบดวงตา

ปัจจุบัน ฟิลเลอร์คือการฉีดสารเติมเต็มที่ชื่อว่ากรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) หรือ HA ซึ่งเป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในร่างกาย ทั้งใต้ผิวหนัง วุ้นลูกตา หรือน้ำในข้อ ทำให้สารชนิดนี้เมื่อฉีดเข้าร่างกายจึงมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากสามารถค่อย ๆ สลายตัวเองตามธรรมชาติได้ 100% โดยไม่ทิ้งสารตกค้างใด ๆ ซึ่งด้วยคุณสมบัติที่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้น และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หลังจากฉีดจึงช่วยแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งช่วยลดเลือนริ้วรอยร่องลึกให้ตื้นขึ้น รอยดำคล้ำรอบดวงตาจางลง ถุงใต้ตากระชับขึ้น ช่วยปรับมิติใบหน้าให้กลับมาแลดูอ่อนเยาว์ สดใส มีชีวิตชีวา

ทั้งนี้การฉีดฟิลเลอร์จะให้ผลลัพธ์หลังฉีดทันที และเนื่องจากไม่มีการผ่าตัดจึงไม่จำเป็นต้องพักฟื้น แต่อาจเกิดอาการรอยแดงจากเข็ม หรืออาการบวม ซึ่งหายเองได้ภายในไม่กี่วัน จากนั้นผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นาน 6 – 18 เดือน

ฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง ?

ปัญหาใต้ตา ไม่ว่าจะใต้ตาดำคล้ำ ตาลึกโหล ถุงใต้ตา หรือมีริ้วรอย ล้วนเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยด้วยกัน ที่พบบ่อยที่สุดคือเกิดจากกรรมพันธุ์ เช่น คนแขกที่มักมีเม็ดสีสะสมบริเวณรอบดวงตาเยอะ จึงส่งผลให้รอบตาคล้ำ และลึกกว่าเชื้อชาติอื่น ๆ ต่อมาคือเกิดจากความเปลี่ยนแปลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้น เช่น เกิดการยุบตัว หรือเกิดริ้วรอย

ประการที่แพร่หลายที่สุด คือปัจจัยจากไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคลนั่นเองค่ะ เช่น ผู้ที่อดนอนเป็นประจำ พักผ่อนไม่เพียงพอ ติดนิสัยขยี้ตาแรง ๆ หรือการเช็ดเครื่องสำอางรอบดวงตาแรง ๆ ก็ก่อให้เกิดริ้วรอยได้เช่นกัน ปัจจัยสุดท้ายที่เลี่ยงได้ยากที่สุดคือผู้ที่เป็นภูมิแพ้ ซึ่งเมื่อเยื่อบุจมูกอักเสบบ่อย เส้นเลือดดำก็จะไหลผ่านยากขึ้น ทำให้เกิดการขยายตัวของเส้นเลือดกลายเป็นรอยดำคล้ำรอบดวงตา ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถแก้ปัญหาได้ดังนี้ค่ะ

• แก้ปัญหาใต้ตาลึก ตาโหล หรือร่องน้ำตา
• ลดปัญหารอยคล้ำใต้ตา
• แก้ปัญหาริ้วรอย หรือร่องลึกใต้ตา
• แก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของถุงใต้ตาให้กระชับขึ้น

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

• เห็นผลทันที ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น เนื่องจากไม่มีการผ่าตัด
• ฟิลเลอร์สามารถค่อย ๆ สลายตัวได้เองตามธรรมชาติ 100% โดยไม่เหลือสารตกค้าง
• แก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึกบริเวณใต้ตาให้ตื้นขึ้น ทำให้ดวงตาและใบหน้ากลับมาดูสดใสอย่างเป็นธรรมชาติ
• แก้ไขปัญหาตาลึกโหล ตาลึก จากการยุบตัวของกระดูกใต้ตา
• แก้ไขปัญหารอบตาดำคล้ำจากภูมิแพ้ หรือจากปัจจัยอื่น ๆ

ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

• ผลลัพธ์ไม่ถาวร เนื่องจากฟิลเลอร์สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ จึงต้องมีการฉีดซ้ำ ทุก ๆ 6 -12 เดือน เพื่อคงสภาพของผลลัพธ์
• หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อาจมีอาการบวมแดง หรือรอยเข็มในจุดที่ฉีด ทว่าหายเองได้ใน 2 – 3 วัน
• หากเลือกใช้ฟิลเลอร์ปลอม หรือฉีดกับแพทย์ที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ อาจเกิดผลข้างเคียงอันตราย เช่น การอักเสบ การติดเชื้อ ฟิลเลอร์ไหล เนื้อตาย หรือกระทั่งตาบอดได้
• หากแพทย์ผู้ฉีดไม่เชี่ยวชาญมากพอ ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาอาจไม่เป็นธรรมชาติ มีลักษณะเป็นก้อน หรืออาจถึงขั้นตาบอด เนื่องจากฉีดผิดโดนเส้นเลือดสำคัญ

ข้อจำกัดในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

โดยทั่วไปการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาด้วยกรดไฮยาลูรอนิคนั้นปลอดภัย 100% เนื่องจากสามารถค่อย ๆ สลายตัวได้เองตามธรรมชาติหลังฉีด ทว่าก็มีผู้ที่แพทย์ไม่แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เนื่องจากอาจเกิดความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้ ดังนี้

• ผู้ที่มีปัญหาเลือดออก เลือดหยุดยาก หรือเกิดแผลฟกช้ำง่าย
• หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
• ผู้ที่เป็นโรคผิวหนัง หรือมีปัญหาผิวหนังอักเสบ เพราะอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย
• ผู้ที่แพ้กรดไฮยาลูรอนิค

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเห็นผล ?

หลังการฉีดฟิลเลอร์ ผู้เข้ารับบริการมักมีรอยแดงจากเข็ม ซึ่งหายได้ภายใน 2 – 3 วัน หากเป็นอาการบวมจะหายใน 7 – 14 วัน โดยทั่วไปจะเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงทันทีหลังฉีด จากนั้นฟิลเลอร์ใต้ตาจะค่อย ๆ เข้าที่ และเห็นผลชัดเจนภายใน 2 สัปดาห์ค่ะ ส่วนใหญ่ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์ใต้ตาจะคงอยู่ได้นาน 6 – 18 เดือน บางรุ่นอยู่ได้นานถึง 24 เดือน ขึ้นอยู่กับฟิลเลอร์ที่ใช้และการดูแลตัวเองหลังฉีด

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี

ที่ APEX เราเป็นผู้นำด้านความงามมากว่า 30 ปี มีรางวัลการันตีมากมาย รวมถึงได้รับความไว้วางใจจากเซลิบริตี้คนดังเป็นจำนวนมาก และเราเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ได้รับมาตรฐานระดับโลก ซึ่งผ่านการรับรองความปลอดภัยจากทั้ง FDA และ อย. ไทย และเรายังมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ ซึ่งได้รับการเทรนความรู้ใหม่ ๆ และอัปเดตเทคนิคล่าสุดโดยอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จาก Training Center ของ APEX อยู่เสมอ

หากคุณอยากแก้ปัญหาใต้ตา ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ ให้ APEX เป็นผู้ช่วยของคุณได้ค่ะ ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเรายินดีให้คำปรึกษา ช่วยประเมินปัญหา และพร้อมออกแบบการรักษาที่จะมอบผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแก่คุณ