เสริมหน้าอก มีเทคนิคอะไรบ้าง เลือกซิลิโคนแบบไหนดี ราคาเท่าไหร่
การเสริมหน้าอกเป็นหนึ่งในการศัลยกรรมที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและปรับบุคลิกภาพให้โดดเด่นยิ่งขึ้น บทความนี้ได้รวบรวมทุกข้อมูลสำคัญที่คุณควรรู้ ตั้งแต่การทำความเข้าใจพื้นฐาน เทคนิคการผ่าตัด การเลือกซิลิโคนให้เหมาะกับตัวเอง ไปจนถึงการเตรียมตัวและดูแลตัวเองหลังผ่าตัด เพื่อให้การตัดสินใจครั้งสำคัญของคุณนำไปสู่ผลลัพธ์ที่สวยงามและลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากการศัลยกรรม
Key Takeaways
- เสริมหน้าอก (Breast Augmentation) คือการผ่าตัดเพิ่มขนาดหรือปรับรูปทรงเต้านมให้สวยสมส่วนและดูเป็นธรรมชาติ
- เทคนิควางซิลิโคนมีทั้ง ใต้กล้ามเนื้อ ใต้เนื้อเยื่อ สองระนาบ และใต้เยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ แพทย์เลือกให้เหมาะกับแต่ละบุคคล
- วัสดุยอดนิยมคือ ซิลิโคนเจล และไขมันตัวเอง ซิลิโคนให้ทรงชัด ส่วนไขมันให้สัมผัสนุ่มธรรมชาติ
- ซิลิโคนมีหลายผิวสัมผัส เช่น ผิวเรียบ ผิวทราย และผิวกำมะหยี่ ต่างกันด้านสัมผัสและโอกาสเกิดพังผืด
- Apex ใช้ซิลิโคนคุณภาพจาก Mentor และ Motiva มาตรฐานความปลอดภัย
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ เพิ่มขนาด แก้ทรง หรือปรับความสมมาตรของหน้าอก
- ก่อนผ่าตัดควร งดยา บุหรี่ แอลกอฮอล์ และตรวจสุขภาพ
- หลังผ่าตัดควร ใส่ซัพพอร์ตบรา พักผ่อน และติดตามผลตามแพทย์นัด
- ดูแลโดย นพ.สมบูรณ์ ไหวพริบ (ว.22713) พร้อมโปรแกรมรับประกัน ASI 5 ปี และราคาพิเศษเริ่มต้น 79,000 บาท
เสริมหน้าอก คืออะไร
เสริมหน้าอก (Breast Augmentation) คือ การผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อเพิ่มขนาดหรือปรับรูปทรงของเต้านมให้เหมาะสมกับสัดส่วนร่างกายและตอบโจทย์ความต้องการส่วนบุคคล การผ่าตัดดังกล่าวช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ แก้ไขปัญหาขนาดหรือรูปทรงเต้านมที่ไม่สมดุล โดยใช้วัสดุเสริม เช่น ซิลิโคนเจล หรือไขมันจากร่างกาย เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยและปลอดภัยตามมาตรฐานทางการแพทย์
เสริมหน้าอกมีเทคนิคแบบไหนบ้าง
การทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก สามารถเลือกวิธีการวางซิลิโคนได้ 4 แบบหลัก ๆ คือ การวางใต้กล้ามเนื้อ การวางใต้เนื้อเยื่อ การวางแบบสองระนาบและการวางใต้เยื่อหุ้มกล้ามเนื้อซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีและเหมาะสมกับบุคคลที่แตกต่างกัน
- การวางใต้กล้ามเนื้อ (Submuscular Placement) การเสริมหน้าอกเทคนิคนี้จะวางซิลิโคนไว้ใต้กล้ามเนื้อหน้าอกบางส่วน ช่วยให้ซิลิโคนถูกปกคลุมมากขึ้น ทำให้หน้าอกดูเป็นธรรมชาติและลดความเสี่ยงในการเกิดพังผืด เหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้อหน้าอกบาง หรือผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูนิ่มและใกล้เคียงธรรมชาติ
- การวางใต้เนื้อเยื่อ (Subglandular Placement) เป็นการเสริมหน้าอกที่วางซิลิโคนไว้เหนือกล้ามเนื้อ แต่ใต้เนื้อเยื่อเต้านม เหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้อหน้าอกอยู่แล้ว เพราะจะช่วยเพิ่มความอิ่มของหน้าอกได้โดยตรงและดูฟื้นตัวเร็วกว่า แต่ผลลัพธ์อาจดูไม่เป็นธรรมชาติมากนักสำหรับผู้ที่มีเนื้อหน้าอกบาง
- การวางแบบสองระนาบ (Dual Plane) เป็นเทคนิคผสมผสานที่ได้รับความนิยมสูง โดยวางซิลิโคนส่วนบนไว้ใต้กล้ามเนื้อเพื่อความเนียน และปล่อยส่วนล่างไว้เหนือกล้ามเนื้อเพื่อให้คล้อยเป็นธรรมชาติ ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและลดปัญหาซิลิโคนขยับเมื่อเกร็งกล้ามเนื้อ
- การวางใต้เยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ (Subfascial) เป็นการวางซิลิโคนไว้ใต้เยื่อบาง ๆ ที่หุ้มกล้ามเนื้อไว้ ซึ่งเป็นเทคนิคกึ่งกลางระหว่างการวางเหนือและใต้กล้ามเนื้อ ช่วยพรางขอบซิลิโคนได้ดี ในขณะที่อาการปวดและการฟื้นตัวดีกว่าการวางใต้กล้ามเนื้อโดยตรง
ซิลิโคนเสริมหน้าอก มีกี่แบบ
ผิวของซิลิโคนเสริมหน้าอกเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการยึดเกาะกับเนื้อเยื่อ ลดความเสี่ยงในการเกิดพังผืด และให้สัมผัสที่แตกต่างกัน โดยในปัจจุบันสามารถแบ่งประเภทหลัก ๆ ได้ดังนี้
- ซิลิโคนผิวเรียบ
มีผิวสัมผัสที่เรียบลื่น ทำให้ซิลิโคนเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระและให้สัมผัสที่นิ่มนวลเป็นธรรมชาติมากที่สุด แต่ก็อาจมีโอกาสเกิดพังผืดได้มากกว่าผิวชนิดอื่นหากร่างกายเกิดการต่อต้าน ด้วยลักษณะผิวที่บางและยืดหยุ่นจึงเหมาะกับการเสริมใต้กล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มความเป็นธรรมชาติ - ซิลิโคนผิวทราย
มีพื้นผิวขรุขระคล้ายเม็ดทราย ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยยึดเกาะกับเนื้อเยื่อรอบข้างได้ดี ลดโอกาสการเกิดพังผืดและป้องกันปัญหาซิลิโคนเคลื่อนที่หรือหมุนผิดตำแหน่ง ซิลิโคนชนิดนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เลือกใช้ซิลิโคนทรงหยดน้ำที่ต้องการการคงรูป - ซิลิโคนผิวเรียบกึ่งทรายหรือผิวกำมะหยี่
เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นใหม่ มีพื้นผิวละเอียดคล้ายกำมะหยี่ ซึ่งรวมข้อดีของผิวเรียบและผิวทรายไว้ด้วยกัน คือ ให้สัมผัสที่นุ่มนวล แต่ยังคงช่วยลดโอกาสการเกิดพังผืดและการเคลื่อนที่ของซิลิโคนได้ดี ผิวสัมผัสแบบนาโนเท็กซ์เจอร์นี้ถือเป็นตัวเลือกที่อยู่กึ่งกลางระหว่างความเรียบและความหยาบ
ตารางเปรียบเทียบผิวสัมผัสของซิลิโคน
| ประเภทผิวซิลิโคน | ข้อดี | ข้อจำกัด | เหมาะกับใคร |
|---|---|---|---|
| ซิลิโคนผิวเรียบ | • ให้สัมผัสที่นิ่มนวลและเป็นธรรมชาติ • ซิลิโคนเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ คล้ายเนื้อจริง • ผิวบางและยืดหยุ่น | • มีโอกาสเกิดพังผืดได้มากกว่าผิวชนิดอื่น | ผู้ที่ต้องการความเป็นธรรมชาติและสัมผัสที่นุ่มนวล |
| ซิลิโคนผิวทราย | • ยึดเกาะกับเนื้อเยื่อได้ดี • ลดความเสี่ยงการเกิดพังผืด • ผลลัพธ์อยู่ทรงได้นานกว่า | • สัมผัสอาจไม่เรียบเท่าผิวเรียบ | ผู้ที่กังวลเรื่องพังผืดหรือมีปัญหาซิลิโคนเคลื่อนที่ของเดิม |
| ซิลิโคนผิวกำมะหยี่ | • รวมข้อดีของผิวเรียบและผิวทรายไว้ด้วยกัน • ช่วยให้สัมผัสดูนุ่มนวลและคงรูปดี | • เป็นเทคโนโลยีใหม่ ราคาสูงกว่า | ผู้ที่ต้องการความสมดุลระหว่างสัมผัสที่นุ่มนวลและความสามารถในการลดความเสี่ยงเรื่องพังผืด |
การผ่าตัดเสริมหน้าอกมีกี่ประเภท
การผ่าตัดเสริมหน้าอกเป็นศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพื่อปรับขนาดและรูปทรงของหน้าอกให้สวยงามและสมส่วนยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีเทคนิคและวัสดุที่ใช้ในการผ่าตัดหลากหลายประเภทซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกันไปเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการและสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล
การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน
เป็นการผ่าตัดนำถุงซิลิโคนเกรดการแพทย์เข้าไปเสริมเพื่อเพิ่มขนาดหน้าอก ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมาก ซิลิโคนมีให้เลือกหลากหลายรูปทรง ทั้งทรงกลมและทรงหยดน้ำรวมถึงผิวสัมผัสและขนาดที่แตกต่างกัน วิธีนี้ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและคงทนยาวนาน
การเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง
เป็นวิธีการดูดไขมันส่วนเกินจากบริเวณอื่นของร่างกาย เช่น หน้าท้อง หรือต้นขา มาผ่านกระบวนการทำให้บริสุทธิ์ แล้วนำกลับมาฉีดเข้าไปที่หน้าอกเพื่อเพิ่มขนาด วิธีนี้ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติเพราะใช้เนื้อเยื่อของตัวเอง และยังได้ประโยชน์จากการลดไขมันส่วนเกินในบริเวณอื่นด้วย
การเสริมหน้าอกแบบผสมผสาน
เป็นเทคนิคที่ใช้การเสริมซิลิโคนร่วมกับการฉีดไขมันตัวเอง วิธีนี้ช่วยให้ได้ขนาดหน้าอกที่ต้องการจากซิลิโคนและใช้ไขมันเติมเต็มในส่วนที่ต้องการความเป็นธรรมชาติมากขึ้น เช่น บริเวณเนินอก เพื่อให้ขอบซิลิโคนดูเรียบเนียน ไม่เป็นบล็อก
เปรียบเทียบวัสดุที่ใช้เสริมหน้าอก แบบไหนเหมาะกับคุณ
วัสดุที่ใช้ผ่าตัด เสริม หน้าอกในปัจจุบันมีอยู่สองประเภทหลัก ได้แก่ ซิลิโคนเจล และ ไขมันตัวเอง ซึ่งแต่ละแบบมีคุณสมบัติและความเหมาะสมที่แตกต่างกันไปตามความต้องการและลักษณะร่างกายของแต่ละบุคคล
- ซิลิโคนเจล เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน หน้าอกดูมีทรงสวย และมีความคงทน การใช้ซิลิโคนเจลเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มขนาดหน้าอกให้เห็นชัดเจนหรือผู้ที่ต้องการปรับรูปร่างหน้าอกให้สมส่วนมากขึ้น
- ไขมันตัวเอง ฉีดไขมันหน้าอกเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบธรรมชาติและเพิ่มขนาดหน้าอกเพียงเล็กน้อย โดยการนำเซลล์ไขมันจากส่วนอื่นของร่างกาย เช่น หน้าท้องหรือต้นขา มาฉีดเสริมในหน้าอก แต่ข้อจำกัดของการใช้ไขมันตัวเองคือไขมันบางส่วนอาจถูกดูดซึมกลับ ทำให้ผลลัพธ์ไม่ถาวรและอาจต้องทำซ้ำ
ซิลิโคนเสริมหน้าอกยี่ห้อไหนดี
การเลือกซิลิโคนเป็นขั้นตอนสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อรูปลักษณ์และความรู้สึกหลังการเสริมหน้าอก ที่ APEX เรามีซิลิโคนคุณภาพจาก 2 แบรนด์ อย่าง Mentor และ Motiva มาให้คุณได้เลือกใช้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกัน
ซิลิโคน Mentor
ซิลิโคน Mentor โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี MemoryGel ซึ่งเป็นเจลที่มีคุณสมบัติในการจดจำและคืนรูปทรงได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้ซิลิโคนมีความนุ่มนวล คืนตัวได้ดี มีหลากหลายรุ่นให้เลือก ดังนี้
- Mentor Smooth Round ซิลิโคนพื้นผิวเรียบ ทรงกลม ให้ความนุ่มมือและแลดูเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหน้าอกที่ดูอวบอิ่ม มีความชิดสวยแบบคลาสสิก
- Mentor MemoryGel Xtra ให้เนื้อสัมผัสแน่นกระชับขึ้นจากรุ่น Smooth พร้อมเทคโนโลยี MemoryGel ที่คงรูปได้ดีเยี่ยม เพิ่มความปลอดภัยด้วยโครงสร้างเจลที่ไม่ไหลแม้ถูกตัด
- Mentor Ultimate รุ่นระดับไฮเอนด์จาก Mentor ที่ให้ทั้งทรงสวย ความทนทานสูง และเจลที่แนบเนียนกับเนื้อเต้านมจริง
ซิลิโคน Motiva
ซิลิโคน Motiva โดดเด่นด้วยนวัตกรรม Ergonomix® ที่ช่วยให้ซิลิโคนสามารถปรับเปลี่ยนรูปทรงตามการเคลื่อนไหวของร่างกายได้อย่างเป็นธรรมชาติ ผสานกับเทคโนโลยีผิวสัมผัสแบบ Nano-texture ที่เรียกว่า SmoothSilk® เพื่อลดการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อ มีรุ่นให้เลือกดังนี้
- Motiva Silk Surface พื้นผิวเนียนละเอียดแบบนาโน ลดโอกาสเกิดพังผืด ทรงกลม เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหน้าอกดูซอฟต์ฟีลละมุน
- Motiva Ergonomix เป็นซิลิโคนที่นิยมอย่างมาก ด้วยความสามารถในการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติ ของร่างกาย ไม่ว่าจะนอน ยืน หรือเคลื่อนไหว หน้าอกยังคงรูปสวย ไม่แข็ง
- Motiva JOY ซิลิโคนรุ่นท็อปสุดจาก Motiva มาพร้อมชิปฝังในเพื่อความปลอดภัย สามารถสแกนตรวจสอบข้อมูลได้ตลอดอายุการใช้งาน ผิวสัมผัสเนียนแนบสนิทกับร่างกาย พร้อมเทคโนโลยี TrueMonobloc™ เพิ่มความยืดหยุ่นสูง
ควรเลือกเสริมหน้าอกขนาดเท่าไหร่
การเลือกขนาดซิลิโคนเสริมหน้าอกที่เหมาะสมควรมาจากการประเมินร่วมกันระหว่างศัลยแพทย์และความต้องการของคนไข้ โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินจากสรีระร่างกาย เช่น ความกว้างของฐานหน้าอก ปริมาณเนื้อหน้าอกเดิมและความยืดหยุ่นของผิวหนัง จากนั้นจึงนำมาพิจารณาร่วมกับขนาดที่คนไข้ต้องการเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติและสมส่วนกับรูปร่างโดยรวมของคนไข้
ปัญหาแบบไหนที่การเสริมหน้าอกแก้ไม่ได้
ข้อจำกัดบางประการที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการเสริมซิลิโคนเพียงอย่างเดียว ซึ่งการทำความเข้าใจข้อจำกัดเหล่านี้จะช่วยให้มีความคาดหวังที่สมจริงต่อผลลัพธ์ ปัญหาที่การเสริมหน้าอกเพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถแก้ไขได้ ดังเช่น
- ความหย่อนคล้อยอย่างรุนแรง: การเสริมหน้าอกช่วยเพิ่มความเต็มของเต้านมแต่ไม่สามารถยกกระชับผิวหนังหรือตำแหน่งหัวนมที่หย่อนคล้อยมากได้ ซึ่งกรณีนี้มักจะต้องทำร่วมกับการผ่าตัดยกกระชับหน้าอก
- ระยะห่างของเต้านมที่กว้างเกินไป: การเสริมหน้าอกไม่สามารถเปลี่ยนตำแหน่งฐานของเต้านมบนผนังหน้าอกได้ จึงไม่สามารถทำให้หน้าอกที่ห่างโดยธรรมชาติชิดเข้ามาได้มากนัก
- ขนาดปานนมที่ใหญ่ผิดปกติ: การใส่ซิลิโคนไม่ได้ช่วยลดขนาดของปานนมที่ขยายใหญ่ ซึ่งปัญหานี้ต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัดตกแต่งปานนมโดยเฉพาะ
- ความไม่สมมาตรของตำแหน่งหัวนม: หากหัวนมทั้งสองข้างอยู่คนละระดับกันโดยธรรมชาติ การเสริมหน้าอกเพียงอย่างเดียวไม่สามารถปรับตำแหน่งของหัวนมให้เท่ากันได้
- การหยุดกระบวนการแก่ตามวัย: การเสริมหน้าอกไม่สามารถป้องกันการเปลี่ยนแปลงของเต้านมที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุ แรงโน้มถ่วง การตั้งครรภ์หรือการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักได้
ลักษณะของแผลผ่าตัดเสริมหน้าอก
ตำแหน่งของแผลเสริมหน้าอกจะขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ศัลยแพทย์เลือกใช้ โดยทั่วไปแผลจะถูกซ่อนไว้ในตำแหน่งที่สังเกตเห็นได้ยาก เช่น บริเวณใต้ราวนม รอบปานนม หรือรอยพับที่รักแร้ ซึ่งรอยแผลจะค่อยๆ จางลงและเรียบเนียนขึ้นตามระยะเวลาการฟื้นตัว
ผลข้างเคียงและความเสี่ยงของการเสริมหน้าอก
แม้ว่าการเสริมหน้าอกในปัจจุบันจะเป็นที่นิยม แต่ก็ถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ซึ่งมีความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ผู้ที่สนใจจึงควรศึกษาข้อมูลเหล่านี้เพื่อประกอบการตัดสินใจ
- อาการปวด บวม ช้ำ และการติดเชื้อ: เป็นความเสี่ยงทั่วไปที่พบได้ในการผ่าตัดทุกชนิด ซึ่งสามารถควบคุมได้ด้วยยาและการดูแลความสะอาดของแผลตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- พังผืดรัดซิลิโคน: เป็นภาวะที่ร่างกายสร้างพังผืดหนาขึ้นมารอบซิลิโคน ทำให้หน้าอกแข็งผิดรูป ดูไม่เป็นธรรมชาติ และอาจมีอาการเจ็บปวด ซึ่งอาจต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัด
- ซิลิโคนรั่ว แตก หรือฉีกขาด: แม้จะเกิดขึ้นได้ยากในซิลิโคนรุ่นใหม่ที่มีความทนทานสูง แต่ก็ยังมีความเสี่ยง ซึ่งอาจต้องผ่าตัดเพื่อนำซิลิโคนเดิมออกหรือเปลี่ยนใหม่
- การเปลี่ยนแปลงความรู้สึกบริเวณหัวนมและผิวหนัง: อาจมีความรู้สึกชาหรือไวต่อสัมผัสมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นอาการชั่วคราว แต่ในบางรายอาจเกิดขึ้นอย่างถาวรได้
- รูปทรงไม่สมมาตร หรือเห็นขอบซิลิโคน: อาจเกิดปัญหาหน้าอกสองข้างไม่เท่ากัน ซิลิโคนเคลื่อนผิดตำแหน่งหรือมองเห็นเป็นริ้วคลื่น โดยเฉพาะในผู้ที่ผอมหรือมีเนื้อหน้าอกน้อยมาก
ใครบ้างที่เหมาะกับการเสริมหน้าอก
การเสริมหน้าอกสามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจและปรับปรุงบุคลิกภาพได้เป็นอย่างดี ผู้ที่พิจารณาเข้ารับการผ่าตัดควรมีคุณสมบัติและความพร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มขนาดหน้าอกให้มีความสมส่วนกับรูปร่างมากขึ้น
- ผู้ที่มีขนาดหน้าอกสองข้างไม่เท่ากันอย่างเห็นได้ชัด และต้องการปรับให้สมดุลกัน
- ผู้ที่หน้าอกหย่อนคล้อยหรือเสียรูปทรงหลังการตั้งครรภ์ การให้นมบุตร หรือน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว
- ผู้ที่ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรงที่อาจส่งผลกระทบต่อการผ่าตัดและการฟื้นตัว
- ผู้ที่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์และมีความคาดหวังต่อผลลัพธ์ที่เป็นจริง
ใครบ้างที่ไม่เหมาะกับการเสริมหน้าอก
เพื่อความปลอดภัยต่อตนเองและหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนที่ไม่พึงประสงค์ มีกลุ่มบุคคลบางประเภทที่ไม่แนะนำให้เข้ารับการผ่าตัดเสริมหน้าอกหรือควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ
- สตรีที่กำลังตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรยังไม่ควรเสริมหน้าอก
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวรุนแรง เช่น โรคหัวใจ โรคปอด หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด
- ผู้ที่กำลังป่วยหรือมีการติดเชื้อในร่างกาย
- ผู้ที่เป็นมะเร็งเต้านมหรือมีความเสี่ยงสูงในการเป็นมะเร็งเต้านม
- ผู้ที่มีความคาดหวังต่อผลลัพธ์ที่ไม่สมจริง
วิธีเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดเสริมอก
การเตรียมตัวที่ดีก่อนเข้ารับการผ่าตัด ไม่เพียงช่วยให้การเสริมหน้าอกเป็นไปอย่างราบรื่นแต่ยังส่งผลโดยตรงต่อการลดความเสี่ยงและช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วยิ่งขึ้น นี่คือวิธีการเตรียมตัวเบื้องต้นก่อนเสริมหน้าอก
- ปรึกษาแพทย์: เข้ารับการปรึกษาเพื่อประเมินสภาพร่างกาย เลือกขนาดซิลิโคน และเทคนิคที่เหมาะสม
- งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์: หยุดสูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์อย่างน้อยประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด เพื่อลดความเสี่ยงในการฟื้นตัวช้า
- งดยาและอาหารเสริมบางชนิด: หยุดรับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน และอาหารเสริม เช่น น้ำมันปลา ประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัดเสริมหน้าอก
- ตรวจสุขภาพก่อนการผ่าตัด: เข้ารับการตรวจร่างกายและการตรวจเลือดตามที่แพทย์กำหนด เพื่อประเมินความพร้อมของร่างกาย
- จัดเตรียมเสื้อผ้าหลวม ๆ และชุดชั้นในพยุงหน้าอก: เตรียมเสื้อผ้าสวมใส่ง่าย เช่น เสื้อแบบติดกระดุมหน้า และชุดชั้นในแบบไม่มีโครง
- วางแผนการพักฟื้น: แจ้งวันลาหยุดงาน เตรียมที่พักที่สะดวก และหาเพื่อนหรือญาติมาดูแลในช่วง ประมาณ 1-2 วันแรกหลังผ่าตัด
ขั้นตอนการเสริมหน้าอก
การผ่าตัดเสริมหน้าอกเป็นกระบวนการที่ต้องมีการวางแผนอย่างละเอียดและใส่ใจในทุกขั้นตอน โดยสามารถสรุปขั้นตอนหลัก ๆ ได้ดังนี้
- การปรึกษาศัลยแพทย์ เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดในการพูดคุยกับศัลยแพทย์เพื่อประเมินโครงสร้างร่างกาย และร่วมกันวางแผนเลือกชนิด ขนาด และเทคนิคการผ่าตัดที่เหมาะสมกับเรา
- การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด ผู้เข้ารับบริการจะต้องงดน้ำและอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด รวมถึงงดยาหรือวิตามินที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อม
- ขั้นตอนการผ่าตัด วิสัญญีแพทย์จะทำการดมยาสลบ จากนั้นศัลยแพทย์จะเปิดแผลตามตำแหน่งที่กำหนดไว้เพื่อสร้างโพรงสำหรับใส่ซิลิโคนและเย็บปิดแผลอย่างประณีต
- การพักฟื้นและดูแลหลังผ่าตัด หลังผ่าตัดจะต้องใส่ซัพพอร์ตบราเพื่อพยุงทรงและลดอาการบวม รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และงดกิจกรรมที่ต้องออกแรงหนักในช่วงแรก
- การนัดติดตามผล ศัลยแพทย์จะนัดหมายเพื่อเข้ามาตรวจเช็คแผลและติดตามผลการผ่าตัดเป็นระยะ เพื่อให้แน่ใจว่าหน้าอกเข้าที่สวยงามและไม่มีภาวะแทรกซ้อนใดๆ
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก
การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมหลังผ่าตัดจะช่วยให้แผลฟื้นตัวเร็ว ลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน และทำให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามตามที่ต้องการ ต่อไปนี้คือวิธีการดูแลหลังทำหน้าอก
- พักผ่อนให้เพียงพอ: หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้แรงหรือยกของหนักในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด
- งดอาหารบางประเภท: ควรหลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ และอาหารทะเล ในช่วง 2-4 สัปดาห์แรก เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการอักเสบของแผล
- สวมชุดชั้นในพยุงหน้าอกตามคำแนะนำแพทย์: ใส่ชุดชั้นในแบบไม่มีโครงหรือสปอร์ตบราที่ช่วยพยุงหน้าอกอย่างเหมาะสม
- หลีกเลี่ยงการยกแขนสูงหรือนอนตะแคง: ในช่วงประมาณ 4-6 สัปดาห์แรก ควรนอนหงายและยกหมอนสูงเพื่อช่วยลดอาการบวม
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์: เพื่อป้องกันการอักเสบและช่วยให้แผลหายเร็วขึ้นหลังเสริมหน้าอก
- ทายาหรือติดแผ่นลดรอยแผลเป็นตามคำแนะนำ: ใช้ผลิตภัณฑ์ลดรอยแผลเป็นตามที่แพทย์สั่งเพื่อให้แผลเรียบเนียนและจางลง
- เข้าพบแพทย์ตามนัดหมาย: ติดตามผลและเข้ารับการตรวจตามที่แพทย์กำหนดเพื่อประเมินการฟื้นตัวและตรวจสอบภาวะแทรกซ้อน
ระยะเวลาพักฟื้นหลังเสริมหน้าอก
ระยะเวลาการพักฟื้นหลังเสริมหน้าอกจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับเทคนิคการผ่าตัด สภาพร่างกาย และการดูแลตัวเอง โดยทั่วไปสามารถแบ่งช่วงเวลาการฟื้นตัวที่สำคัญได้ดังนี้:
- ช่วง 1-3 วันแรก: จะมีอาการปวด ตึงและบวมบริเวณหน้าอก ควรพักผ่อนให้เต็มที่หลีกเลี่ยงการยกแขนหรือใช้แรงจากกล้ามเนื้อหน้าอกและรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
- ช่วง 4-7 วันแรก: อาการปวดจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดแต่ยังคงมีอาการบวมอยู่ สามารถเริ่มทำกิจกรรมเบา ๆ ในชีวิตประจำวันได้ แต่ยังต้องงดการยกของหนักหรือออกแรงแขน
- สัปดาห์ที่ 2-4: อาการบวมจะค่อย ๆ ยุบลงอย่างต่อเนื่อง และรู้สึกสบายตัวมากขึ้น คนส่วนใหญ่สามารถกลับไปทำงานที่ไม่ต้องใช้แรงได้ แต่ยังคงต้องสวมใส่ซัพพอร์ตบราและงดการออกกำลังกายหนัก
- เดือนที่ 1-3: หน้าอกจะเริ่มนิ่มลงและเข้าที่มากขึ้น ทรวงอกจะค่อย ๆ คล้อยลงมาอยู่ในตำแหน่งที่เป็นธรรมชาติ รอยแผลจะเริ่มจางลงและสามารถเริ่มออกกำลังกายเบา ๆ ได้ตามคำแนะนำของแพทย์
- เดือนที่ 6 เป็นต้นไป: หน้าอกจะเข้าที่ให้รูปทรงและสัมผัสที่สวยงามเป็นธรรมชาติ รอยแผลจะจางลงมากจนแทบสังเกตไม่เห็น ถือเป็นผลลัพธ์สุดท้ายของการผ่าตัด
เลือกเสริมหน้าอกที่ไหนดี
การเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลศัลยกรรมไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่ยังเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในระยะยาวด้วย ต่อไปนี้คือวิธีการเลือกที่ช่วยให้คุณมั่นใจ
- ตรวจสอบประวัติของศัลยแพทย์ ศัลยแพทย์ควรมีประสบการณ์เฉพาะทางในการศัลยกรรมหน้าอก พร้อมใบรับรองจากสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่ง
- ดูมาตรฐานสถานพยาบาลและอุปกรณ์ทางการแพทย์ คลินิกหรือโรงพยาบาลต้องมีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย และมีอุปกรณ์ที่ทันสมัย รวมถึงห้องผ่าตัดที่ปลอดเชื้อ
- สอบถามเกี่ยวกับวัสดุและเทคนิคที่ใช้ ควรเลือกคลินิกที่ใช้วัสดุที่ได้มาตรฐาน เช่น ซิลิโคนที่ผ่านการรับรองจาก FDA และแจ้งรายละเอียดเทคนิคการผ่าตัดอย่างโปร่งใส
- รีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ศึกษาประสบการณ์ของผู้ที่เคยทำมาก่อน เช่น รีวิวจากเว็บไซต์ คลินิก หรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เพื่อประเมินคุณภาพการบริการ
- สถานที่ตั้งและการบริการหลังการผ่าตัด เลือกคลินิกที่มีที่ตั้งชัดเจน เดินทางสะดวก และมีการบริการหลังผ่าตัด เช่น การติดตามผล การนัดตรวจ หรือคำแนะนำในการดูแลตัวเอง
- ตรวจสอบประกันความเสี่ยง สอบถามเกี่ยวกับการรับประกันผลลัพธ์ เช่น หากเกิดปัญหาแพทย์พร้อมดูแลหรือแก้ไขให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
เสริมหน้าอกที่ APEX Surgery ดียังไง
การตัดสินใจเสริมหน้าอกคือการลงทุนเพื่อความงามและความมั่นใจในระยะยาว ที่ APEX เราใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อผลลัพธ์ที่สวยงามสำหรับคุณโดยเฉพาะ
- ดูแลการปรึกษา ตลอดการผ่าตัดโดยศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง โดยนายแพทย์สมบูรณ์ ไหวพริบ เลขใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม: ว. 22713
- พร้อมการดมยาโดยวิสัญญีแพทย์ทุกเคสแบบ 1:1
- ออกแบบวิเคราะห์จากโครงสร้างหน้าอกของคนไข้ให้เหมาะสมกับสรีระแต่ละบุคคล
- มั่นใจกว่าด้วยโปรแกรมดูแลระยะยาว มอบเอกสิทธิ์พิเศษ ASI 5 ปี (APEX Service Inclusive) ที่พร้อมดูแลและให้ความอุ่นใจตลอดการใช้งาน
- เราเลือกใช้เฉพาะซิลิโคนคุณภาพที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วไปอย่าง Motiva และ Mentor
เสริมหน้าอก ราคาเท่าไหร่ พร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้ม
ที่ APEX เราให้บริการเสริมหน้าอกโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรม เพื่อผลลัพธ์ที่เหมาะสมกับรูปร่างของแต่ละบุคคล เสริมหน้าอกราคาคุ้มค่าโปรโมชั่น
ซิลิโคน Mentor
- Mentor Smooth Round ราคา 79,000 บาท (จากปกติ 99,000 บาท)
- Mentor MemoryGel Xtra ราคา 119,000 บาท (จากปกติ 189,000 บาท)
- Mentor Ultimate ราคา 250,000 บาท (จากปกติ 359,000 บาท)
ซิลิโคน Motiva
- Motiva Silk Surface ราคา 109,000 บาท (จากปกติ 149,000 บาท)
- Motiva Ergonomix ราคา 159,000 บาท (จากปกติ 189,000 บาท)
- Motiva JOY ราคา 250,000 บาท (จากปกติ 359,000 บาท)
ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง แนะนำให้สอบถามก่อนใช้บริการทุกครั้ง ปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง พร้อมออกแบบทรงหน้าอกให้เหมาะกับคุณโดยเฉพาะ ดูแลทุกขั้นตอนโดยแพทย์ สนใจปรึกษาและประเมินรูปทรงได้ที่ APEX Surgery Hospital สาขาเพลินจิต ติดต่อ Line : @apexbeauty
รีวิวผลลัพธ์ก่อนและหลังเสริมหน้าอก
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล ใช้เป็นตัวอย่างผลจากการเข้ารับรักษาสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
คำถามยอดนิยมเกี่ยวกับศัลยกรรมเสริมหน้าอก
เสริมหน้าอกเจ็บไหม?
เสริมหน้าอกพักฟื้นกี่วัน?
เสริมหน้าอกอยู่ได้นานแค่ไหน?
เสริมหน้าอกนอนตะแคงได้ตอนไหน?
เสริมหน้าอกให้นมลูกได้ไหม?
เสริมหน้าอกควรนวดหน้าอกหรือไม่?
สรุปเสริมหน้าอก
การเสริมหน้าอกเป็นการศัลยกรรมเพื่อปรับขนาดและรูปทรงเต้านม ซึ่งมีทางเลือกที่หลากหลายทั้งในด้านเทคนิคการวางซิลิโคน ประเภทวัสดุเช่น ซิลิโคน Mentor หรือ Motiva หรือการใช้ไขมันตัวเอง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกัน การตัดสินใจเลือกวิธีที่เหมาะสมต้องคำนึงถึงสรีระและความคาดหวังของแต่ละบุคคล ผ่านการปรึกษาศัลยแพทย์ การเตรียมตัวที่ดีก่อนผ่าตัดและการดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัดหลังผ่าตัดจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ และลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้
หากท่านใดสนใจเสริมหน้าอกสามารถติดต่อสอบถามและนัดปรึกษาแพทย์ได้ที่ช่องทางดังต่อไปนี้ค่ะ
ช่องทางการติดต่อ
- Tel : 080-500-0123
- Line : @apexbeauty
- Tiktok : apexprofoundbeauty
- Facebook : APEX Hospital & Beauty Clinic
- Instagram : apexbeauty
- Youtube : Apex Beauty Clinic
- X (Twitter) : ApexProfound
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัท ฯ กำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับ APEX Surgery Hospital : โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเอเพ็กซ์ สาขาเพลินจิต
มั่นใจในมาตรฐานโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง มีให้บริการ 2 สาขา ทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัย ช่วยออกแบบทรงหน้าอกให้สวยอย่างดูเป็นธรรมชาติและได้รับการดูแลที่ปลอดภัย

รีวิวแก้หน้าอกด้วยโปรแกรม Motiva ที่ APEX กับคุณหนิงหนิง
หลายคนที่เคยทำหน้าอกแล้วไม่มั่นใจในผลลัพธ์ อาจกำลังมองหาทางออกในการแก้ไขให้สวยอย่างที่หวังไว้ บทความนี้เราจะพามาฟังประสบการณ์จริงของ ‘คุณหนิงหนิง’

คุณกู๊ดดี้ เปิดหมดเปลือกกับรีวิวเสริมหน้าอก พร้อมผลลัพธ์แต่ละช่วงเวลา
การตัดสินใจเสริมหน้าอกไม่ใช่เรื่องเล็ก โดยเฉพาะเมื่อเป็นเรื่องของรูปลักษณ์ ความมั่นใจ และความปลอดภัยของตนเอง วันนี้เราได้ยกเคสตัวอย่างรีวิวเสริมหน้าอก ‘คุณกู๊ดดี้’

คุณสปาย รีวิวแก้หน้าอกครั้งใหม่ พร้อมเตือนใจ…ใหญ่ไปใช่ว่าจะดี
ความสวยงามหลังเสริมหน้าอกคือสิ่งที่ผู้หญิงหลายคนปรารถนา แต่จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อขนาดหน้าอกที่เคยคิดว่าใช่ กลับกลายเป็นปัญหาที่บั่นทอนความพอใจในชีวิตประจำวัน

เสริมหน้าอกหมอไหนดี รู้ก่อนทำ พร้อมสวยแบบไม่เสี่ยง
การตัดสินใจทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ส่งผลต่อทั้งร่างกายและจิตใจ การเลือกเสริมหน้าอกหมอไหนดีและสถานพยาบาลที่เหมาะสม

ทำนม ยังไงให้สวย ไม่เป็นบล็อก พร้อมรีวิว+ราคาอัปเดต 2568
การตัดสินใจทำนม ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มขนาดหน้าอกเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ การแก้ไขปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยหลังการมีบุตร

อาการหลังเสริมอก 7วัน มีอะไรบ้าง พร้อมวิธีดูแลตัวเองและข้อควรระวัง
หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก การมีความกังวลเกี่ยวกับความเจ็บปวด ความบวม หรือรอยช้ำถือเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์แรกซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพักฟื้น

เสริมหน้าอกกี่วันหายบวม เช็กอาการแต่ละช่วงเวลา
หลายคนที่ตัดสินใจเสริมหน้าอกมักมีคำถามแรกเสมอว่า “เสริมหน้าอกกี่วันถึงจะหายบวม?” เพราะอาการบวมถือเป็นเรื่องปกติหลังผ่าตัด