ริ้วรอย หนึ่งในสัญญาณแห่งวัยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และจะยิ่งแสดงปัญหาชัดขึ้นหากถูกกระตุ้นด้วยปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งแม้จะไม่เป็นอันตราย แต่ก็ส่งผลให้สุขภาพผิวดูไม่สดใส หย่อนคล้อย และแลดูแก่กว่าวัย ดังนั้น การทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดริ้วรอย จะช่วยให้เราสามารถป้องกันและดูแลผิวได้อย่างถูกวิธี เพื่อชะลอการปรากฏของริ้วรอยก่อนวัย และคงความอ่อนเยาว์ให้ผิวได้นานยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีวิธีไหนที่ทีม Apex แนะนำบ้าง มาอ่านกันได้เลย
ริ้วรอยคืออะไร มีกี่ประเภท ?
ริ้วรอย (Wrinkles) คือร่องหรือรอยพับที่ปรากฏบนผิวหนัง ทำให้ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียน เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างผิวตามวัยและผลกระทบจากปัจจัยต่าง ๆ มักพบได้บ่อยเมื่อมีอายุที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ประเภทของริ้วรอยก็จะมีอยู่หลากหลาย โดยทั่วไปสามารถจำแนกประเภทของริ้วรอยหลัก ๆ ได้ดังนี้
ริ้วรอยตื้น (Fine Lines)
เป็นร่องตื้น ๆ หรือเส้นริ้วบาง ๆ ที่ปรากฏบนผิวหนังชั้นนอก (Epidermis) โดยทั่วไปมักมีสาเหตุหลักมาจากการที่ผิวขาดความชุ่มชื้น หรือเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างผิวในระยะแรก จึงมักสังเกตเห็นได้ง่ายเมื่อผิวแห้ง
พบบ่อยใน : ผู้ที่มีผิวแห้ง, ผู้ที่ไม่ค่อยดูแลเรื่องความชุ่มชื้นของผิว, หรือผู้ที่เริ่มเข้าสู่ช่วงวัยที่โครงสร้างผิวเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง (อาจพบได้ตั้งแต่วัย 20 ปลายๆ หรือ 30 ต้นๆ)
ริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์ (Dynamic Wrinkles)
เกิดขึ้นจากการหดตัวซ้ำๆ ของกล้ามเนื้อที่ใช้ในการแสดงอารมณ์บนใบหน้า เช่น รอยตีนกาบริเวณหางตา รอยย่นระหว่างคิ้วเมื่อขมวดคิ้ว หรือรอยย่นบริเวณหน้าผากเมื่อเลิกคิ้ว ริ้วรอยประเภทนี้จะเห็นได้ชัดเจนเมื่อมีการเคลื่อนไหวของใบหน้า และอาจจางลงเมื่อใบหน้าอยู่ในภาวะปกติ
พบบ่อยใน : คนทุกเพศทุกวัยที่แสดงอารมณ์ผ่านใบหน้าเป็นประจำ โดยเฉพาะผู้ที่มักแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ เช่น ยิ้มบ่อย ขมวดคิ้วบ่อย หรือเลิกคิ้วบ่อย
ริ้วรอยลึกถาวร (Static Wrinkles)
เป็นริ้วรอยที่ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนบนผิว แม้ในขณะที่ใบหน้าไม่ได้มีการเคลื่อนไหวหรือแสดงอารมณ์ใดๆ ริ้วรอยประเภทนี้มักเป็นผลมาจากการสูญเสียคอลลาเจน อีลาสติน และองค์ประกอบอื่นๆ ในชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) อย่างต่อเนื่อง และบ่อยครั้งพัฒนามาจากริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์ที่ไม่ได้รับการดูแลหรือปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน
พบบ่อยใน : ผู้ที่มีอายุมากขึ้น ซึ่งผิวมีการสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสตินตามธรรมชาติ หรือผู้ที่ละเลยการดูแลริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์เป็นเวลานานจนพัฒนาเป็นริ้วรอยถาวร
ริ้วรอยจากการเสื่อมของผิว (Elastotic Creases)
เป็นริ้วรอยลักษณะร่องลึกที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของเส้นใยอีลาสตินในชั้นผิวหนังอย่างรุนแรง สาเหตุหลักมักมาจากการสัมผัสแสงแดดเป็นระยะเวลานาน ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นมีลักษณะหนาขึ้น หยาบกร้าน และปรากฏเป็นร่องลึกชัดเจน โดยเฉพาะในบริเวณที่สัมผัสแสงแดดบ่อยครั้ง เช่น แก้ม ลำคอ และเนินอก
พบบ่อยใน : ผู้ที่สัมผัสแสงแดดเป็นเวลานานโดยไม่ได้รับการป้องกันอย่างเพียงพอ ทำให้ผิวเสื่อมสภาพอย่างรุนแรง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ทำงานกลางแจ้งเป็นประจำ หรือผู้ที่ใช้ชีวิตในบริเวณที่มีแดดจัดเป็นประจำ
สาเหตุหลักของการเกิดริ้วรอย : ปัจจัยภายในและภายนอก
ริ้วรอยบนใบหน้าและผิวพรรณ อาจไม่ได้เกิดขึ้นจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งเพียงอย่างเดียว แต่เป็นผลลัพธ์ที่ซับซ้อนของกลไกภายในร่างกาย รวมถึงการกระตุ้นจากอิทธิพลภายนอก ซึ่งการทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้เราตระหนักถึงแนวทางการดูแลผิวพรรณได้อย่างเหมาะสม โดยสามารถจำแนกสาเหตุหลักออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
ปัจจัยภายใน (Intrinsic Aging)
ปัจจัยกลุ่มนี้สะท้อนถึงกระบวนการเสื่อมถอยของเซลล์ผิวตามกลไกชีวภาพภายในร่างกาย ซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากเมื่อเวลาผ่านไป อย่างไรก็ตามการดูแลตนเองอย่างเหมาะสมสามารถช่วยชะลอความรุนแรงและอัตราการเกิดได้ ปัจจัยภายในที่สำคัญ ได้แก่
- พันธุกรรม : ลักษณะโครงสร้างผิว อัตราการเสื่อมสภาพของเซลล์ และกระบวนการซ่อมแซมผิว ส่วนหนึ่งได้รับอิทธิพลจากพันธุกรรม ทำให้บุคคลบางกลุ่มอาจมีแนวโน้มในการเกิดริ้วรอยได้ง่ายหรือเร็วกว่าบุคคลอื่น
- อายุที่เพิ่มขึ้น : เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น การสังเคราะห์คอลลาเจน อีลาสติน และกรดไฮยาลูรอนิก ซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญที่มอบความกระชับ ความยืดหยุ่น และความชุ่มชื้นแก่ผิวจะมีปริมาณลดลงตามกลไกธรรมชาติ ส่งผลให้ผิวบางลง ขาดความยืดหยุ่น และเอื้อต่อการเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน : การเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนในสตรีวัยหมดประจำเดือน มีผลต่อการสังเคราะห์คอลลาเจน การกักเก็บความชุ่มชื้น และความหนาแน่นของชั้นผิว ปัจจัยสำคัญต่อการเกิดริ้วรอย
ปัจจัยภายนอก (Extrinsic Aging)
ปัจจัยกลุ่มนี้มีต้นกำเนิดจากสภาวะแวดล้อมภายนอกและพฤติกรรมการดำเนินชีวิต ซึ่งนับเป็นปัจจัยที่ตัวเราเองมีบทบาทในการควบคุม ปรับเปลี่ยน หรือหลีกเลี่ยงเพื่อลดผลกระทบต่อผิวพรรณได้ ซึ่งปัจจัยภายนอกที่ควรให้ความสำคัญ มีดังนี้
- แสงแดด : การสัมผัสรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากแสงแดด โดยเฉพาะรังสี UVA และ UVB ถือเป็นปัจจัยหลักที่เร่งการเสื่อมสภาพของผิว (Photoaging) รังสีเหล่านี้ทำลายเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นหนังแท้ อีกทั้งยังกระตุ้นการผลิตอนุมูลอิสระ (Free Radicals) ซึ่งนำไปสู่การเกิดริ้วรอย จุดด่างดำ และสีผิวไม่สม่ำเสมอ
- มลภาวะและอนุมูลอิสระ : อนุภาคมลภาวะในอากาศ เช่น ฝุ่น PM2.5 ควันพิษ และสารเคมีต่างๆ รวมถึงอนุมูลอิสระจากแหล่งอื่น สามารถแทรกซึมและก่อให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์ผิว ส่งผลให้เกราะป้องกันผิวอ่อนแอลงและกระตุ้นกระบวนการชราภาพของผิว
- การสูบบุหรี่ : สารเคมีที่เป็นพิษในควันบุหรี่ส่งผลเสียโดยตรงต่อโครงสร้างผิว โดยทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน นอกจากนี้ยังทำให้หลอดเลือดฝอยหดตัว ลดการไหลเวียนของเลือดที่นำออกซิเจนและสารอาหารไปหล่อเลี้ยงเซลล์ผิว ส่งผลให้ผิวขาดความยืดหยุ่น เกิดริ้วรอยได้ง่าย และแลดูหมองคล้ำ
- การแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ : การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้าซ้ำ ๆ จากการแสดงอารมณ์ เช่น การยิ้ม การขมวดคิ้ว หรือการเลิกหน้าผาก ทำให้เกิดรอยพับบนผิวหนัง เมื่อระยะเวลาผ่านไปและผิวสูญเสียความยืดหยุ่น รอยพับเหล่านี้สามารถพัฒนาไปเป็นริ้วรอยแบบถาวรได้
- การพักผ่อนไม่เพียงพอและความเครียด : ภาวะเครียดเรื้อรังและการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ กระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ในปริมาณที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลเสียต่อการสร้างคอลลาเจนและอาจกระตุ้นการอักเสบในระดับเซลล์ผิว นอกจากนี้ การนอนหลับไม่เพียงพอทำให้กระบวนการซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวตามธรรมชาติในระหว่างคืนลดประสิทธิภาพลง
- การดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม : พฤติกรรมการดูแลผิวที่ไม่ถูกต้อง เช่น การละเลยการใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่สอดคล้องกับสภาพผิว การทำความสะอาดผิวหน้าไม่ทั่วถึง หรือการรบกวนผิวด้วยการขัดถูที่รุนแรงเกินความจำเป็น ล้วนเป็นปัจจัยที่สามารถทำลายเกราะป้องกันผิวและเร่งการเกิดริ้วรอย
- การทานอาหาร : การได้รับสารอาหารที่ไม่สมดุล โดยเฉพาะการขาดวิตามิน สารต้านอนุมูลอิสระ และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อสุขภาพผิว รวมถึงการดื่มน้ำในปริมาณที่ไม่เพียงพอต่อวัน สามารถส่งผลให้ผิวขาดความชุ่มชื้น สูญเสียความยืดหยุ่น และทำให้กระบวนการซ่อมแซมเซลล์ผิวเป็นไปได้ไม่เต็มที่
บริเวณไหนพบริ้วรอยบ่อย
ริ้วรอย เป็นปัญหาผิวที่สามารถปรากฏได้ในหลายบริเวณของร่างกาย โดยเฉพาะในส่วนที่ผิวมีการเคลื่อนไหวบ่อยครั้ง หรือสัมผัสกับปัจจัยภายนอกอย่างต่อเนื่อง เช่น
ริ้วรอยรอบดวงตา
ผิวหนังรอบดวงตาเป็นบริเวณที่บอบบางและมีการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อจากการแสดงอารมณ์ต่างๆ อยู่เสมอ ทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย โดยเฉพาะรอยตีนกาที่กระจายออกจากหางตาอันเป็นผลจากการยิ้มหรือแสดงสีหน้าซ้ำๆ และริ้วรอยใต้ตาซึ่งอาจเกิดจากทั้งการขาดความชุ่มชื้นหรือการสูญเสียคอลลาเจน
ริ้วรอยหน้าผาก
หน้าผากเป็นบริเวณที่กล้ามเนื้อมีการเคลื่อนไหวบ่อยครั้ง โดยเฉพาะเมื่อเราเลิกคิ้วเพื่อแสดงความประหลาดใจหรือตั้งคำถาม การหดตัวซ้ำๆ ของกล้ามเนื้อบริเวณนี้จึงนำไปสู่การเกิดรอยย่นแนวนอนพาดผ่านหน้าผาก ซึ่งจะปรากฏชัดเจนขึ้นตามอายุและการแสดงออกทางสีหน้า
ริ้วรอยระหว่างคิ้ว
บริเวณระหว่างคิ้วมักเกิดริ้วรอยจากการขมวดคิ้วซ้ำๆ เพื่อแสดงอารมณ์เช่นความไม่พอใจ ความเครียด หรือเมื่อต้องเพ่งมองสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นเวลานาน ส่งผลให้เกิดรอยขมวดคิ้ว หรือที่เรียกว่า “รอยเลข 11” เป็นเส้นแนวตั้งหนึ่งหรือสองเส้นปรากฏชัดเจนขึ้น
ริ้วรอยรอบริมฝีปาก
ผิวรอบริมฝีปากมีการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้ออยู่ตลอดเวลา ทั้งจากการพูด ยิ้ม ดื่มน้ำ หรือแม้แต่การสูบบุหรี่ ทำให้เกิดริ้วรอยได้หลายรูปแบบ เช่น ร่องแก้มที่ลากจากปีกจมูกถึงมุมปาก ริ้วรอยเล็กๆ รอบริมฝีปากที่มักเรียกว่า Smoker’s Lines และร่องน้ำหมากที่ทอดยาวจากมุมปากลงมายังคาง
ริ้วรอยร่องแก้ม
บริเวณแก้มมีการเปลี่ยนแปลงตามวัยจากการสูญเสียคอลลาเจน อีลาสติน และปริมาตรไขมันใต้ผิวหนัง ร่วมกับผลกระทบสะสมจากแสงแดด ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ผิวหย่อนคล้อยและเกิดเป็นริ้วรอยตื้นๆ หรือร่องลึกได้ นอกจากนี้ ลักษณะการนอนตะแคงเป็นประจำก็อาจทำให้เกิด Sleep Lines บนแก้มได้เช่นกัน
ริ้วรอยลำคอ
ผิวบริเวณลำคอมีความบอบบางคล้ายผิวรอบดวงตา แต่มักถูกละเลยในการดูแล ทั้งยังสัมผัสแสงแดดได้ง่ายและได้รับผลกระทบจากการก้มมองอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นเวลานาน หรือที่เรียกว่า “Tech Neck” ปัญหาที่พบบ่อยคือรอยพับแนวนอนรอบลำคอ หรือ Neck Bands รวมถึงความหย่อนคล้อยของผิวที่ทำให้คอดูมีอายุมากขึ้น
ริ้วรอยเนินอก
บริเวณเนินอก หรือ Décolletage เป็นส่วนที่ผิวค่อนข้างบางและมักสัมผัสแสงแดดโดยตรง โดยเฉพาะเมื่อสวมเสื้อคอกว้าง ทำให้ผิวเสื่อมสภาพและเกิดริ้วรอยได้ง่าย นอกจากนี้ การนอนตะแคงเป็นประจำยังเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยพับย่น โดยเฉพาะริ้วรอยแนวตั้งบริเวณร่องอก
ริ้วรอยหลังมือ
ผิวหนังบริเวณหลังมือมีความบางและสูญเสียไขมันใต้ผิวได้ง่ายตามวัย ทั้งยังเป็นบริเวณที่เผชิญกับแสงแดด มลภาวะ และสารเคมีต่างๆ อยู่เสมอโดยมักไม่ได้รับการป้องกันเท่าที่ควร ทำให้เกิดปัญหาผิวเหี่ยวย่น มองเห็นเส้นเลือดได้ชัดเจนขึ้น รวมถึงการปรากฏของจุดด่างดำจากแสงแดด
เคล็ดลับดูแลผิว เพื่อลดเลือนและป้องกันริ้วรอย
แม้ว่าปัจจัยที่ก่อให้เกิดริ้วรอยอาจเป็นสิ่งที่หลายคนหลีกเลี่ยงได้ยาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่สามารถดูแลหรือฟื้นฟูผิวให้กลับมาดูสุขภาพดีได้เลย ซึ่งสิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจและเลือกใช้วิธีการที่เหมาะสมกับสภาพปัญหาผิวของแต่ละบุคคล โดยในปัจจุบันก็มีเคล็ดลับและหัตถการในการดูแลและแก้ไขปัญหาริ้วรอยที่หลากหลายให้เลือกใช้ เช่น
สำหรับผู้ที่มีริ้วรอย
- ผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอยเข้มข้น เช่น เซรั่มที่มีส่วนผสมของเปปไทด์ (Peptides), กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) ความเข้มข้นสูง, หรือเรตินอยด์ตามคำแนะนำของแพทย์
- หัตถการที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ เผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสและเรียบเนียนขึ้น
- การกรอผิวช่วยขจัดเซลล์ผิวชั้นนอกอย่างอ่อนโยน ลดเลือนริ้วรอยตื้น ๆ
- โปรแกรมเลเซอร์ลดริ้วรอย ซึ่งมีหลายชนิด เช่น Program Fractional Laser, Program Q-Switched Laser ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ และปรับสภาพผิว
- โปรแกรม HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) / โปรแกรม Ultherapy ใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูง ส่งพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS ช่วยยกกระชับผิว ลดความหย่อนคล้อยและริ้วรอย
- โปรแกรมโบท็อกซ์ (Botulinum Toxin) ช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์ เช่น รอยตีนกา รอยขมวดคิ้ว
- โปรแกรมฟิลเลอร์ (Fillers) สารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูรอนิก ช่วยเติมเต็มร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ทำให้ผิวดูอิ่มฟูและริ้วรอยตื้นขึ้น
สำหรับการดูแลระยะยาว
- ปกป้องผิวจากแสงแดดเป็นประจำ ด้วยการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 PA+++ ขึ้นไป แม้วันที่ไม่มีแดดหรืออยู่ในที่ร่ม ควรทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมงหากมีกิจกรรมกลางแจ้งหรือเหงื่อออกมาก
- เลือกสกินแคร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว
- ทำความสะอาดผิวอย่างถูกวิธี หรือล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง ด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผักผลไม้หลากสี ธัญพืชไม่ขัดสี โปรตีนคุณภาพดี และไขมันดี เพื่อให้ผิวได้รับสารอาหารครบถ้วน
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นจากภายใน
- พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้ผิวได้ซ่อมแซมตัวเอง
- จัดการความเครียด หากิจกรรมผ่อนคลาย เช่น โยคะ นั่งสมาธิ ออกกำลังกาย
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และควันบุหรี่มือสอง รวมถึงลดการดื่มแอลกอฮอล์
สรุปริ้วรอยเกิดจากอะไร แก้ด้วยวิธีไหนให้ตอบโจทย์
ริ้วรอยเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะมาจากปัจจัยภายในอย่างอายุที่เพิ่มมากขึ้น หรือปัจจัยภายนอกเช่นแสงแดด การแสดงอารมณ์ซ้ำ ๆ มลภาวะ หรือการทานอาหารที่ไม่ดีต่อผิว ดังนั้นการเลือกวิธีแก้ไขให้ตอบโจทย์ จึงจำเป็นต้องวิเคราะห์ถึงสาเหตุและประเภทของริ้วรอย เพื่อเลือกใช้ตั้งแต่การบำรุงผิวเฉพาะจุดด้วยสกินแคร์เข้มข้น ไปจนถึงหัตถการทางการแพทย์ที่ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวได้อย่างตรงเป้าหมาย
สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาในการแก้ปัญหาริ้วรอย หรือสอบถามรายละเอียดหัตถการอื่น ๆ ของ APEX เพิ่มเติมได้ที่
ช่องทางการติดต่อ
- Tel : 080-500-0123
- Line : @apexbeauty
- Tiktok : apexprofoundbeauty
- Facebook : APEX Hospital & Beauty Clinic
- Instagram : apexbeauty
- Youtube : Apex Beauty Clinic
- X (Twitter) : ApexProfound
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัท ฯ กำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับ Apex Clinic สาขาทองหล่อ