กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Ptosis) คือการที่เปลือกตาตกลงมาปิดตาดำ ทำให้ตาดูปรือเหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลา ซึ่งเกิดขึ้นได้ทั้งข้างเดียวหรือสองข้าง สาเหตุนั้นมีตั้งแต่การเป็นมาแต่กำเนิด ความเสื่อมตามวัยไปจนถึงผลจากอุบัติเหตุหรือโรคทางระบบประสาท หากไม่ได้รับการรักษา นอกจากจะบั่นทอนความมั่นใจแล้ว ยังอาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็นได้

กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง คืออะไร ต่างจาก ‘หนังตาตก’ อย่างไร
แม้จะทำให้ดวงตาดูตกและไม่สดใสเหมือนกัน แต่ภาวะกล้ามเนื้อตาที่อ่อนแรง (Ptosis) และ หนังตาตก (Dermatochalasis) มีสาเหตุที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยปัญหากล้ามเนื้อตาที่อ่อนแรงเกิดจากกล้ามเนื้อยกเปลือกตาทำงานผิดปกติ ทำให้ตาดูปรือคล้ายคนง่วงนอน ซึ่งต้องแก้ไขโดยการผ่าตัดเข้าไปซ่อมแซมที่กล้ามเนื้อมัดนั้นโดยตรง ส่วนหนังตาตกนั้นเกิดจากผิวหนังเปลือกตาที่หย่อนคล้อยลงมาตามวัย ขณะที่กล้ามเนื้อยังทำงานปกติ การรักษาจึงเป็นการผ่าตัดเอาเพียงผิวหนังส่วนเกินออกไปเท่านั้น
อาการภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
การทำความเข้าใจในสัญญาณและอาการต่างๆ คือก้าวแรกที่จะนำไปสู่การแก้ไขที่ตรงจุด ลองมาเช็กตัวเองจากลิสต์อาการเหล่านี้
1. ตาดูปรือเหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลา
นี่คือสัญญาณที่ชัดเจนและสังเกตได้ง่ายที่สุดของภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงโดยเปลือกตาบนจะตกลงมาบดบังดวงตาดำมากกว่าปกติ ทำให้ดวงตาดูไม่สดใส หรี่เล็กและมีลักษณะคล้ายคนง่วงนอนอยู่เสมอ แม้จะพักผ่อนมาอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม ซึ่งอาการนี้อาจเกิดขึ้นกับดวงตาเพียงข้างเดียวหรือทั้งสองข้างก็ได้
2. ชั้นตาไม่เท่ากัน หรือชั้นตาหลบในซ้อนกันหลายชั้น
เมื่อกล้ามเนื้อที่ใช้ในการลืมตาทำงานได้ไม่เต็มที่ การดึงรั้งของผิวหนังเพื่อสร้างชั้นตาจึงผิดปกติไป ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงทำให้เกิดปัญหาชั้นตาสองข้างไม่เท่ากันอย่างชัดเจน หรือในบางรายอาจทำให้ชั้นตาเดิมกลายเป็นชั้นตาที่ซ้อนกันหลายๆ ชั้น ดูไม่คมชัด และในที่สุดก็กลายเป็นชั้นตาหลบในได้
3. ต้องเลิกคิ้วหรือเบิกตาเพื่อช่วยในการมองเห็น
พฤติกรรมนี้เป็นกลไกชดเชยของร่างกายโดยไม่รู้ตัว เมื่อกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงทำให้เปลือกตาตกมาบดบังการมองเห็น ร่างกายจะพยายามใช้กล้ามเนื้อหน้าผาก (Frontalis muscle) ในการช่วยดึงคิ้วและเปลือกตาขึ้นเพื่อให้มองได้ชัดเจนขึ้น การติดนิสัยเลิกคิ้วหรือเบิ่งตาอยู่บ่อยๆ จึงเป็นอีกหนึ่งสัญญาณสำคัญของภาวะนี้
4. ปวดศีรษะหรือเมื่อยล้าบริเวณหน้าผาก
เป็นอาการที่ต่อเนื่องมาจากการต้องเลิกคิ้วอยู่ตลอดเวลา การเกร็งกล้ามเนื้อหน้าผากเพื่อช่วยพยุงเปลือกตาเป็นเวลานานๆ ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นทำงานหนักเกินไป ส่งผลให้เกิดอาการปวดศีรษะบริเวณขมับหรือหน้าผากได้ โดยเฉพาะในช่วงบ่ายหรือเย็นของวัน อาการเมื่อยล้าเหล่านี้จึงมักเป็นผลพวงโดยตรงจากภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงที่ไม่ได้รับการแก้ไข
สาเหตุของอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เกิดจากอะไรได้บ้าง
ทำความเข้าใจถึงต้นตอของปัญหาคือขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการวางแผนการรักษาที่ถูกต้องและตรงจุด โดยสาเหตุหลักๆ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือเป็นมาแต่กำเนิดและเกิดขึ้นภายหลัง
เป็นมาแต่กำเนิด (Congenital Ptosis)
หมายถึงภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงที่เกิดขึ้นตั้งแต่อยู่ในครรภ์ โดยเกิดจากความผิดปกติของการพัฒนา กล้ามเนื้อยกเปลือกตา (Levator Palpebrae Superioris) ทำให้กล้ามเนื้อมัดนี้ไม่มีความแข็งแรงเพียงพอที่จะยกเปลือกตาขึ้นได้เต็มที่ ส่งผลให้เด็กที่เกิดมามีลักษณะเปลือกตาตกข้างเดียวหรือทั้งสองข้างอย่างเห็นได้ชัด การมีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงตั้งแต่กำเนิดจำเป็นต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยและติดตามโดยแพทย์อย่างใกล้ชิด เพราะหากเปลือกตาตกลงมาบดบังการมองเห็น อาจขัดขวางพัฒนาการทางสายตาและนำไปสู่ภาวะสายตาขี้เกียจได้ในอนาคต
เกิดขึ้นภายหลัง (Acquired Ptosis)
โดยเกิดขึ้นจากปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามาส่งผลกระทบต่อกล้ามเนื้อยกเปลือกตาที่เคยทำงานได้ตามปกติมาก่อน
- อายุที่มากขึ้น: เป็นปัจจัยที่พบบ่อยที่สุด เมื่ออายุเพิ่มขึ้น เส้นเอ็นของกล้ามเนื้อยกเปลือกตาจะค่อยๆ ยืดออกและเสื่อมสภาพลงตามกาลเวลา หรืออาจเกิดการหลุดลอกออกจากแผ่นกระดูกอ่อนที่ขอบเปลือกตา ทำให้แรงในการยกเปลือกตาลดลง ส่งผลให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงในผู้สูงอายุ
- การใช้คอนแทคเลนส์เป็นเวลานาน: โดยเฉพาะการใช้คอนแทคเลนส์ชนิดแข็ง (Hard Lenses) พฤติกรรมการดึงเปลือกตาเพื่อใส่และถอดคอนแทคเลนส์ซ้ำๆ เป็นเวลาหลายปี สามารถทำให้เส้นเอ็นของกล้ามเนื้อยืดออกและอ่อนกำลังลงได้เช่นกัน
- อุบัติเหตุหรือการผ่าตัด: การเกิดอุบัติเหตุที่กระทบกระเทือนบริเวณดวงตาโดยตรง หรือการเข้ารับการผ่าตัดตาบางชนิด เช่น การผ่าตัดต้อกระจก อาจส่งผลกระทบต่อกล้ามเนื้อหรือเส้นประสาทที่ควบคุมการลืมตา ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงตามมาได้
แนวทางการรักษาอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
- การผ่าตัด : เป็นการรักษาที่ได้ผลดีที่สุด โดยศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดเพื่อปรับระดับความตึงของกล้ามเนื้อที่ใช้ในการยกเปลือกตา ทำให้สามารถลืมตาได้เต็มที่และชั้นตากลับมาคมชัด
- การรักษาโรคที่เป็นสาเหตุ : หากอาการเกิดจากโรคทางระบบประสาท เช่น โรค MG แพทย์จะมุ่งเน้นการรักษาที่ต้นตอของโรค ซึ่งจะช่วยให้อาการกล้ามเนื้อตาที่อ่อนแรงดีขึ้นตามไปด้วย
- การประคบเย็น : สามารถช่วยบรรเทาอาการในผู้ป่วยบางรายได้ชั่วคราว แต่ไม่ใช่วิธีการรักษาที่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างถาวร
- การฝึกกล้ามเนื้อตา : อาจช่วยให้อาการดีขึ้นได้เล็กน้อยในบางกรณี แต่ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่ชัดเจนว่าสามารถรักษาภาวะนี้ให้หายขาดได้
วิธีป้องกันและดูแลดวงตาจากอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
- พักสายตา : อย่าใช้สายตาต่อเนื่องเป็นเวลานาน ควรหาเวลาพักมองไกลๆ ทุกชั่วโมง
- นอนให้พอ : การนอนหลับที่เพียงพอคือการพักผ่อนที่ดีที่สุดสำหรับดวงตา
- กินอาหารบำรุงสายตา : เน้นผักและผลไม้ที่มีวิตามินเอและสารต้านอนุมูลอิสระ
- ตรวจสุขภาพตาประจำปี : เพื่อเช็กความแข็งแรงของดวงตาและป้องกันปัญหาได้ทันท่วงที
โดยสรุปแล้วสิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือ ภาวะกล้ามเนื้อตาที่อ่อนแรงเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขจากโครงสร้างกล้ามเนื้อภายใน ไม่ใช่แค่ผิวหนังภายนอก การทำตาสองชั้นเพียงอย่างเดียวจึงไม่สามารถตอบโจทย์ได้ หากคุณมีอาการตาปรือหรือชั้นตาดูผิดปกติ การปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินภาวะกล้ามเนื้อตาที่อ่อนแรงและวางแผนการรักษาที่ถูกต้อง คือหนทางที่ดีที่สุดในการคืนความสดใสให้ดวงตาของคุณและค่อนข้างมีความปลอดภัย
ช่องทางการติดต่อ
- Tel : 080-500-0123
- Line : @apexbeauty
- Tiktok : apexprofoundbeauty
- Facebook : APEX Hospital & Beauty Clinic
- Instagram : apexbeauty
- Youtube : Apex Beauty Clinic
- X (Twitter) : ApexProfound
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัท ฯ กำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับสาขาทองหล่อเท่านั้น
อ้างอิง
American Academy of Ophthalmology. (2023, June 28). What is ptosis?
https://www.aao.org/eye-health/diseases/what-is-ptosis
Cleveland Clinic. (2022, December 28). Ptosis (droopy eyelid).
https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/14418-ptosis-droopy-eyelid
Nagalli, S. B., & Tadi, D. V. (2023, March 6). Ptosis. In StatPearls. StatPearls Publishing. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK539828/










