
อาการนอนกรนเป็นปัญหาสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะรบกวนการนอนของคนรอบข้างแล้ว ยังส่งผลเสียต่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพในระยะยาว ปัจจุบันมีวิธีแก้นอนกรนที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพหลายวิธี โดยเฉพาะการรักษาด้วยเลเซอร์ที่ช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างตรงจุด ไม่ต้องผ่าตัด และฟื้นตัวได้เร็ว สำหรับใครที่กังวลเกี่ยวกับอันตรายจากการนอนกรนและการหยุดหายใจขณะหลับ เราจะพาคุณมาทำความเข้าใจ พร้อมแนะนำวิธีรักษาแก้ปัญหานอนกรนกัน
อาการนอนกรน คืออะไร?
อาการนอนกรน (Snoring) คือ เสียงดังที่เกิดขึ้นขณะหลับ ซึ่งเกิดจากการที่อากาศผ่านทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นสั่นสะเทือน สาเหตุของการนอนกรนมีหลากหลาย เช่น เพดานอ่อนหย่อนยาน ลิ้นใหญ่ หรือน้ำหนักเกิน ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และภาวะหยุดหายใจขณะหลับ หากมีอาการนอนกรนบ่อยและรบกวนการนอนหลับ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและวิธีการรักษา
อาการนอนกรนเกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง
การนอนกรนเกิดจากการที่ทางเดินหายใจส่วนบนตีบและแคบลง ทำให้อากาศที่ผ่านเข้าไปสั่นสะเทือนเนื้อเยื่อบริเวณนั้น จนทำให้เกิดเป็นเสียงดังขึ้น ซึ่งมีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง มาดูกัน
- เพดานอ่อนหย่อน เพดานอ่อนที่หย่อนคล้อยลงมาขณะนอนหลับอาจกีดขวางทางเดินหายใจ
- ลิ้นใหญ่ ลิ้นที่ใหญ่ผิดปกติอาจตีบตันทางเดินหายใจขณะนอนหลับ
- คางสั้น โครงสร้างของขากรรไกรที่ผิดปกติอาจทำให้ทางเดินหายใจแคบลง
- โพรงจมูกอักเสบเรื้อรัง การอักเสบของเยื่อบุในโพรงจมูกทำให้ทางเดินหายใจตีบและแคบ
- น้ำหนักเกิน ไขมันส่วนเกินบริเวณคออาจกดทับทางเดินหายใจ
- ดื่มแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายมากเกินไป
- สูบบุหรี่ บุหรี่ทำให้อักเสบในทางเดินหายใจ
- เกิดภูมิแพ้ อาการแพ้ทำให้เยื่อบุในจมูกบวม
- ท่าทางการนอน นอนหงายจะทำให้อาการนอนกรนรุนแรงขึ้น
ดูรีวิวแก้นอนกรนของ คุณปิ๊ง อดิสรณ์
อายุเท่าไหร่ถึงจะเริ่มนอนกรน
อาการนอนกรนสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ไม่จำกัดอายุ แต่โดยทั่วไปแล้วจะพบได้บ่อยขึ้นในผู้ใหญ่ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากขึ้น เนื่องจากโครงสร้างของร่างกายเปลี่ยนแปลงไป เช่น กล้ามเนื้อบริเวณลำคออ่อนตัวลง หรือมีภาวะน้ำหนักเกิน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดการอุดตันของทางเดินหายใจขณะนอนหลับ
อย่างไรก็ตาม เด็กก็สามารถมีอาการนอนกรนได้เช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงวัยเด็กปฐมวัย (ประมาณ 2-6 ปี) เนื่องจากต่อมทอนซิลและอะดีนอยด์มีขนาดใหญ่ อาจไปอุดตันทางเดินหายใจได้
อาการนอนกรน หยุดหายใจขณะหลับ อันตรายไหม?
อาการนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับนั้นอันตรายกว่าที่หลายคนคิด เพราะนอกจากจะรบกวนคนรอบข้างแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายอย่างมาก เช่น ทำให้หลับไม่สนิท ทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน ซึ่งอาจนำไปสู่อาการต่าง ๆ ตามมาได้ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และยังส่งผลต่ออารมณ์และความจำได้อีกด้วย หากคุณมีอาการเหล่านี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอาการและรับการรักษานอนกรนที่เหมาะสมจะดีที่สุด
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ: นอนกรนอันตรายไหม
อาการนอนกรนรักษาอย่างไรได้บ้าง และวิธีการแก้นอนกรนที่เหมาะสม
รักษาอาการนอนกรนด้วยเลเซอร์
รักษาอาการนอนกรนด้วยเครื่อง CPAP
ทำเลเซอร์แก้นอนกรน VS รักษาด้วยเครื่อง CPAP แบบไหนดีกว่ากัน?
ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่มีปัญหาในการกรน หรือมีภาวะหยุดหายใจ หากไม่อยากใช้เครื่อง CPAP เพื่อส่งแรงดันอากาศเข้าไปในทางเดินหายใจทุกวัน เนื่องจากเครื่องอาจทำให้เกิดความรำคาญ ไม่สะดวกสบาย อึดอัดเวลาใส่นอน เพราะต้องใส่ระหว่างนอนตลอดคืน ทำให้คนส่วนใหญ่มักเลือกที่จะไม่ใช้เครื่องและหาวิธีอื่นแทน เช่น การเลือกรักษาด้วยวิธีการทำเลเซอร์ เพราะวิธีนี้เป็นการรักษาที่ไม่ต้องใช้ยา ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องใส่เครื่องมือใด ๆ ทำให้รู้สึกสะดวกสบายมากกว่า
นอกจากนี้ การรักษาด้วยเลเซอร์ยังช่วยลดอาการนอนกรนได้อย่างมีประสิทธิภาพในหลายกรณี ซึ่ง SnoreLase มีข้อดีคือ ไม่เจ็บ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ใช้เวลาสั้นแค่ 30 นาทีในการรักษา และเป็นการจบปัญหานอนกรนที่ต้นเหตุ โดยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรง เช่น อาการจมูกแห้ง ปากแห้ง คัดจมูก เลือดกำเดาไหล ไซนัสอักเสบ หูอื้อ หรือปัญหาเกี่ยวกับดวงตา ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่พบบ่อยในการใช้เครื่อง CPAP
รักษานอนกรน หยุดหายใจขณะหลับ ที่ APEX ราคาเท่าไหร่?
ราคาแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแพ็กเกจที่คุณเลือก โดยโปรโมชั่นสำหรับการทดลองทำครั้งแรก จะอยู่ที่ 9,900 บาทเท่านั้น จากปกติ 15,000 บาท และยังมีอีกหลายแพ็กเกจ ดังนี้
-
แก้นอนกรน แพ็กเกจ 3 ครั้ง 29,700 บาท
-
แก้นอนกรน แพ็กเกจ 5 ครั้ง แถม 1 ครั้ง 49,500 บาท
-
แก้นอนกรน แพ็กเกจ 10 ครั้ง แถม 3 ครั้ง 99,000 บาท
รีวิวแก้นอนกรน
คำถามเกี่ยวกับการแก้นอนกรน
ทำเลเซอร์แก้นอนกรน เจ็บไหม ?
ในการทำเลเซอร์แก้ปัญหานอนกรน ไม่มีความรู้สึกเจ็บ จะรู้สึกเพียงอุ่น ๆ ในขณะทำ เนื่องจากแพทย์จะใช้เลเซอร์ชนิดพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้เนื้อเยื่อบริเวณที่รักษาเกิดการหดตัวและกระชับขึ้น ทำให้ทางเดินหายใจของคุณโล่งขึ้น ซึ่งขั้นตอนนี้จะใช้เวลาไม่นาน และไม่จำเป็นต้องดมยาสลบหรือฉีดยาชา แต่อาจมีความรู้สึกแห้งคอเล็กน้อยในช่วงวันแรก ๆ หลังการรักษา ซึ่งเป็นอาการที่เกิดได้ตามปกติ แนะนำให้จิบน้ำบ่อย ๆ จะช่วยให้อาการดังกล่าวดีขึ้น
ทำเลเซอร์แก้นอนกรน ต้องทำกี่ครั้ง ?
ทำเลเซอร์แก้นอนกรน หายขาดไหม ?
สรุปวิธีการแก้นอนกรน
อาการนอนกรน เกิดจากทางเดินหายใจตีบแคบ ทำให้เกิดเสียงดังขณะหลับ หากปล่อยทิ้งไว้ อาจนำไปสู่ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายอย่างมาก โดยวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมที่สุด คือการรักษาด้วยเลเซอร์แก้นอนกรน ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด ใช้เวลาไม่นาน และช่วยลดอาการนอนกรนได้เป็นอย่างดีเมื่อทำต่อเนื่อง
สำหรับใครที่ต้องการทำเลเซอร์นอนกรน คุณสามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เกี่ยวกับแนวทางการรักษา และประเมินปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ได้ฟรีที่ Apex Clinic
ช่องทางการติดต่อ
- Tel : 080-500-0123
- Line : @apexbeauty
- Tiktok : apexprofoundbeauty
- Facebook : APEX Hospital & Beauty Clinic
- Instagram : apexbeauty
- Youtube : Apex Beauty Clinic
- X (Twitter) : ApexProfound
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับ Apex Clinic สาขาทองหล่อ





