
เหนียงหรือไขมันใต้คาง เป็นปัญหาที่หลายคนกังวลใจ เพราะทำให้รูปหน้าไม่ชัด ดูบวม และขาดความมั่นใจ แม้จะควบคุมอาหารหรือออกกำลังกาย ก็ไม่สามารถลดไขมันส่วนนี้ได้ ‘ดูดไขมันเหนียง’ จึงกลายเป็นทางเลือกยอดนิยมในการแก้ไขปัญหาไขมันใต้คาง ที่จะทำให้ใบหน้าเรียวขึ้น คางสองชั้นลดลง วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับการดูดไขมันเหนียง ว่ามีหลักการทำงานอย่างไร ช่วยเรื่องหน้าเรียวได้อย่างไร และเหมาะกับใครบ้าง
ดูดไขมันเหนียง คืออะไร
ดูดไขมันเหนียง (Double Chin Liposuction) เป็นการผ่าตัดเล็กเพื่อดูดไขมันส่วนเกินบริเวณใต้คางและลำคอส่วนบนออกมา โดยแพทย์จะทำการเปิดแผลขนาดเล็กประมาณ 0.3-0.5 เซนติเมตร ซึ่งแทบจะมองไม่เห็นหลังแผลหายดี แล้วใส่สายแคนนูล่าเพื่อดูดไขมันออก การดูดไขมันในบริเวณนี้สามารถทำให้โครงหน้าโดยรวมดูเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน หน้าดูเรียวลง กรอบหน้าคมชัดขึ้น และคางสองชั้นลดลงได้
ข้อดีของการดูดไขมันเหนียง
- เห็นผลลัพธ์ได้ค่อนข้างชัดเจน สามารถสังเกตความเปลี่ยนแปลงของรูปหน้าได้ภายในไม่กี่สัปดาห์หลังทำ โดยไม่ต้องรอนาน
- ช่วยให้ใบหน้าเรียว กรอบหน้าชัด การขจัดไขมันสะสมใต้คางจะช่วยให้ใบหน้าดูยาวขึ้น คมขึ้น และได้สัดส่วนที่สวยงาม
- แก้ปัญหาคางสองชั้นได้ เหนียงที่เกิดจากไขมันจะถูกดูดออกโดยตรง ไม่ใช่แค่บังเอิญลดลงจากการลดน้ำหนัก
- ไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ เป็นการผ่าตัดเล็ก เจ็บน้อย แผลเล็ก และใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน
- เสริมความมั่นใจให้ผู้รับบริการ เมื่อรูปหน้าดูดีขึ้น ความมั่นใจก็เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในด้านบุคลิกภาพ
ข้อจำกัดของการดูดไขมันเหนียง
- ไม่ได้ช่วยเรื่องผิวหย่อนคล้อย หากผิวบริเวณเหนียงมีความหย่อนคล้อยมาก อาจต้องทำร่วมกับหัตถการยกกระชับ เช่น โปรแกรม HIFU หรือ โปรแกรม Thermage
- ไม่เหมาะกับคนที่ไขมันน้อยแต่ผิวหย่อน สำหรับผู้ที่ปัญหาไม่ได้เกิดจากไขมันสะสม อาจไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนจากการดูดไขมัน
- มีอาการบวมช้ำหลังทำบ้าง ถึงแม้จะพักฟื้นไม่นาน แต่หลังทำอาจมีอาการบวมและช้ำเล็กน้อยในช่วงแรก
- ต้องอาศัยแพทย์ที่มีทักษะ เนื่องจากบริเวณเหนียงมีเส้นประสาทและโครงสร้างที่ซับซ้อน จึงควรเลือกรับบริการกับแพทย์ที่มีทักษะในการดูดไขมัน
- มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการทำหัตถการทั่วไป แม้ให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างชัดเจนกว่า แต่ก็จะมีค่ารักษาที่สูงกว่าการทำหัตถการยกกระชับทั่วไป
ดูดไขมันเหนียง เหมาะกับใคร
การดูดไขมันเหนียงไม่ได้เหมาะกับทุกคน แต่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมเฉพาะบริเวณใต้คาง ซึ่งทำให้รูปหน้าไม่ชัดและหน้าอ้วน โดยเหมาะกับกลุ่มคนดังต่อไปนี้
- ผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุดบริเวณใต้คาง เช่น มีเหนียงแม้รูปร่างโดยรวมจะไม่อ้วน การดูดไขมันสามารถช่วยลดเฉพาะบริเวณนั้นได้อย่างตรงจุด
- ผู้ที่มีปัญหาคางสองชั้น ส่งผลให้หน้าดูกลม เหมาะสำหรับผู้ที่อยากให้ใบหน้าดูเรียว กรอบหน้าชัดขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งโปรแกรมฟิลเลอร์หรือการผ่าตัดศัลยกรรม
- ผู้ที่ลดน้ำหนักแล้วแต่เหนียงยังไม่หาย ในบางคน การลดน้ำหนักทั่วไปไม่สามารถกำจัดไขมันบริเวณนี้ได้ จำเป็นต้องใช้วิธีเฉพาะทางอย่างการดูดไขมัน
- ผู้ที่ต้องการปรับกรอบหน้า เพราะการดูดไขมันเหนียงสามารถให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าเมโสแฟตหรือการเลเซอร์กระชับเพียงอย่างเดียว
- ผู้ที่มีผิวบริเวณเหนียงที่ยังยืดหยุ่นดี เหมาะสำหรับผู้ที่ยังมีความกระชับของผิว เพราะหลังดูดไขมัน ผิวจะสามารถหดตัวตามรูปหน้าได้ดีขึ้น
การเตรียมตัวก่อนดูดไขมันเหนียง
แม้การดูดไขมันเหนียงจะเป็นหัตถการเล็กและใช้เวลาไม่นาน แต่การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้ารับบริการถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่น และลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน ซึ่งวิธีการเตรียมตัวที่ดี ควรทำดังนี้
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนทำ
- แจ้งข้อมูลโรคประจำตัวและยาที่ใช้อยู่ให้แพทย์ทราบ
- งดยาและอาหารเสริมบางชนิดที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- พักผ่อนให้เพียงพอก่อนวันเข้ารับบริการ
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า ทาโลชั่น หรือครีมบริเวณคอและใบหน้าในวันเข้ารับบริการ
- เตรียมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย มีซิปหรือกระดุมหน้า เพื่อให้เปลี่ยนเสื้อผ้าได้สะดวกหลังทำหัตถการ
- จัดสภาพแวดล้อมที่บ้านให้เหมาะสำหรับการพักฟื้น
ขั้นตอนการดูดไขมันเหนียง
การดูดไขมันเหนียงเป็นทางเลือกที่ช่วยทำให้ใบหน้าเรียวขึ้น ซึ่งก่อนทำการดูดไขมัน เราควรรู้ขั้นตอนการทำ เพื่อที่จะสามารถเตรียมตัวได้อย่างถูกต้อง โดยมีขั้นตอนต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- ปรึกษาแพทย์ ในการประเมินสุขภาพเบื้องต้น รวมถึงประเมินสภาพใบหน้า ปริมาณไขมัน ความยืดหยุ่นของผิว และโครงสร้างใบหน้า เพื่อที่จะวางแผนร่วมกับคนไข้เพื่อให้ผลลัพธ์เป็นไปตามที่ต้องการ
- วาดตำแหน่งที่จะทำการดูดไขมัน เพื่อที่แพทย์จะสามารถกำหนดจุดในการเจาะเข็มและสามารถวางแนวในการดูดไขมันเหนียงได้ถูกต้อง
- ฉีดยาชาเฉพาะจุดหรือให้ยานอนหลับ ซึ่งสองทางเลือกนี้จะขึ้นอยู่กับเทคนิคของแพทย์และปริมาณไขมันของแต่ละบุคคล
- ทำการเปิดแผล ซึ่งแผลในการดูดไขมันจะเป็นแผลเล็ก ๆ มีขนาดประมาณ 2-3 มิลลิเมตร บริเวณใต้คางหรือหลังใบหู ขึ้นอยู่กับบริเวณที่แพทย์ต้องการดูดไขมัน
- ใส่ท่อขนาดเล็ก (Cannula) เพื่อดูดไขมันออก ซึ่งในขั้นตอนนี้อาจมีการใช้เครื่องมือช่วยในการสั่นหรือปล่อยพลังงาน เช่น โปรแกรม VASER, โปรแกรม J Plasma, หรือ โปรแกรม BodyTite เพื่อให้ไขมันแตกตัวและสามารถดูดออกได้ง่ายขึ้น
- ปิดแผลและใส่ผ้ารัดหน้า เพื่อช่วยกระชับผิวและลดอาการบวม โดยผู้รับบริการจะต้องใส่ผ้ารัดเหนียงต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์
- การติดตามผลหลังทำ โดยแพทย์จะนัดตรวจดูอาการ ว่าผลลัพธ์เป็นยังไง มีผลข้างเคียงหรือไม่ รวมถึงอาจมีการทำหัตถการอื่น ๆ เสริม เช่น โปรแกรม HIFU หรือเลเซอร์กระชับผิวเพิ่มเติมในบางรายเพื่อให้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น
การดูแลตัวเองหลังดูดไขมันเหนียง
หลังการดูดไขมันเหนียง ร่างกายจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะส่งผลต่อทั้งผลลัพธ์ของหัตถการ และความเร็วในการฟื้นตัว การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีในช่วงนี้จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้แนวกรอบหน้ากระชับ ได้รูป และลดอาการบวมช้ำได้เร็วขึ้น ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
- ใส่ผ้ารัดหน้า (Face Support) ตามที่แพทย์แนะนำ
- หลีกเลี่ยงการนอนราบหรือนอนตะแคงในช่วง 3–5 วันแรก
- งดกิจกรรมหนักหรือออกกำลังกายที่ใช้แรงมากประมาณ 1–2 สัปดาห์
- ประคบเย็นในช่วง 48 ชั่วโมงแรก และเปลี่ยนเป็นประคบร้อนหลังจากนั้น
- หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกา หรือกดนวดบริเวณแผล
- ทำความสะอาดแผลอย่างเบามือตามคำแนะนำของแพทย์
- ดื่มน้ำมาก ๆ และเลือกรับประทานอาหารที่อ่อน ย่อยง่าย
ดูดไขมันเหนียง ราคาเท่าไหร่
ราคาการดูดไขมันเหนียงที่ APEX ราคาจุดละ 29,000 บาท โดยราคานี้ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้ ปริมาณไขมัน และความซับซ้อนของเคส หากต้องการปรับกรอบหน้าให้ชัดยิ่งขึ้น อาจมีการประเมินทำเพิ่มเติมในจุดอื่น เช่น บริเวณกรามหรือแนวคอ ทั้งนี้สามารถเข้ามาปรึกษาและประเมินรูปหน้าก่อนตัดสินใจได้เลยค่ะ
รีวิวดูดไขมันเหนียง
คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับการดูดไขมันเหนียง
ดูดไขมันเหนียงราคาเท่าไหร่
ดูดไขมันเหนียงอยู่ได้นานแค่ไหน
ผลลัพธ์จากการดูดไขมันเหนียงสามารถอยู่ได้นาน เพราะเซลล์ไขมันที่ถูกดูดออกจะไม่กลับมาอีก แต่ทั้งนี้เซลล์ไขมันใหม่ก็อาจจะทำให้คางสองชั้นกลับมาได้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น
- พฤติกรรมการกินและน้ำหนักตัวในระยะยาว
- อายุและความยืดหยุ่นของผิว
- การดูแลตัวเองหลังทำ เช่น การใส่ผ้ารัดหน้า และหลีกเลี่ยงกิจกรรมกระทบใบหน้า
- การออกกำลังกายและดูแลสุขภาพโดยรวม
การดูดไขมันเหนียงมีข้อเสียอะไรบ้าง
- อาจมีอาการบวม ช้ำ หรือเจ็บในช่วง 3–7 วันแรก
- ผิวหนังบางคนอาจเกิดการหย่อนคล้อยได้ หากไขมันออกมากแต่ผิวไม่กระชับ
- ต้องดูแลแผลและสวมผ้ารัดหน้าอย่างเคร่งครัดในช่วงพักฟื้น
- หากทำโดยแพทย์ที่ไม่มีทักษะ อาจเสี่ยงต่อผลลัพธ์ที่ไม่สมดุล หรือเกิดพังผืดใต้ผิว
- ไม่สามารถลดน้ำหนักโดยรวมได้ เหมาะสำหรับการปรับเฉพาะจุดเท่านั้น
สรุป ดูดไขมันเหนียง แก้ปัญหาคางสองชั้น
คางสองชั้นหรือเหนียงใต้คาง เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย เพราะไขมันสะสมในจุดนี้ไม่สามารถกำจัดได้ง่ายด้วยการควบคุมอาหารหรือออกกำลังกาย การดูดไขมันเหนียงจึงกลายเป็นทางเลือกยอดนิยมที่ช่วยแก้ปัญหาได้ ด้วยการกำจัดไขมันส่วนเกินออก ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวยาว แนวกรามชัดเจนขึ้น และลดความหย่อนคล้อยที่ทำให้หน้าดูอ่อนล้า
หากสนใจดูดไขมันเหนียงที่ APEX Surgery Hospital สามารถนัดจองคิวปรึกษาศัลยแพทย์ในการดูดไขมัน หรือสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ในทุกช่องทางของเราเลยนะคะ
ช่องทางการติดต่อ
- Tel : 080-500-0123
- Line : @apexbeauty
- Tiktok : apexprofoundbeauty
- Facebook : APEX Hospital & Beauty Clinic
- Instagram : apexbeauty
- Youtube : Apex Beauty Clinic
- X (Twitter) : ApexProfound
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับ APEX Surgery Hospital เพลินจิต
อ้างอิง
Cleveland Clinic. (2022). Liposuction.
https://my.clevelandclinic.org/health/treatments/11009-liposuction
Hullett, A. (2023). What to Know About Liposuction. Healthline.
https://www.healthline.com/health/liposuction
Mayo Clinic. (2024) . Liposuction.
https://www.mayoclinic.org/tests-procedures/liposuction/about/pac-20384586







