คุณเคยสังเกตพฤติกรรมการนอนของคนข้าง ๆ หรือไม่ ? บางทีเสียงกรนดัง ๆ หรือการสะดุ้งตื่นกลางดึก อาจไม่ใช่แค่เรื่องน่ารำคาญ แต่เป็นสัญญาณเตือนของ ‘ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ‘ ที่อาจส่งผลเสียร้ายแรงต่อสุขภาพ บทความนี้จะช่วยให้คุณสังเกตอาการผิดปกติในคนใกล้ชิด เพื่อให้พวกเขาสามารถรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาได้ทันท่วงทีค่ะ
หยุดหายใจขณะหลับ คืออะไร เข้าใจภัยเงียบใกล้ตัว
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea: OSA) คือ ภาวะที่ทางเดินหายใจส่วนบนเกิดการอุดกั้นขณะนอนหลับ ทำให้การหายใจติดขัดหรือหยุดหายใจเป็นช่วง ๆ แต่ละครั้งอาจนานตั้งแต่ 10 วินาที ไปจนถึง 1 นาที หรือมากกว่านั้น ภาวะนี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น กล้ามเนื้อคอและลิ้นหย่อนคล้อยขณะหลับ โครงสร้างทางเดินหายใจผิดปกติ หรือมีไขมันสะสมบริเวณคอมากเกินไป
ทำไมต้องตระหนักถึงภัยเงียบนี้?
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับไม่ใช่แค่เรื่องของการนอนกรนที่น่ารำคาญ แต่เป็นภัยเงียบที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมอย่างมาก หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา อาจนำไปสู่
- ความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มขึ้น: ภาวะขาดออกซิเจนเป็นช่วงๆ ทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจวาย และโรคหลอดเลือดสมอง
- เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน: ภาวะหยุดหายใจขณะหลับส่งผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- เพิ่มความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ: อาการง่วงนอนมากผิดปกติในเวลากลางวัน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุขณะขับรถหรือทำงาน
- ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต: อาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ความจำไม่ดี และอารมณ์แปรปรวน ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันและความสัมพันธ์กับผู้อื่น
หยุดหายใจขณะหลับ อาการเป็นยังไง
คุณเคยสังเกตพฤติกรรมการนอนของคนใกล้ชิดบ้างหรือไม่? อาการบางอย่างที่ดูเหมือนปกติ อาจเป็นสัญญาณของ ‘ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ’ ที่กำลังคุกคามสุขภาพของพวกเขา
เสียงกรนดังผิดปกติ
- สังเกตว่าเสียงกรนดังกว่าปกติหรือไม่
- เสียงกรนดังจนคนข้างห้อง หรือคนในบ้านได้ยินหรือไม่
- เสียงกรนมีลักษณะเป็นอย่างไร? (เช่น เสียงกรนสม่ำเสมอ หรือมีเสียงสำลัก/ติดขัด)
หยุดหายใจขณะหลับ
- ลองสังเกตการหายใจขณะหลับ ว่ามีการหยุดหายใจเป็นช่วงๆ หรือไม่
- อาจสอบถามจากคนใกล้ชิดที่นอนร่วมห้อง ว่ามีการหยุดหายใจขณะหลับหรือไม่
- สังเกตอาการสำลัก สะดุ้งตื่น หรือหายใจเฮือกๆ ขณะหลับ
ง่วงนอนมากผิดปกติในเวลากลางวัน
- สังเกตว่ามีอาการง่วงซึม อ่อนเพลีย ไม่มีสมาธิในเวลากลางวันหรือไม่
- หลับในขณะทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ดูทีวี อ่านหนังสือ หรือขับรถ หรือไม่
- มักจะบ่นว่านอนหลับไม่เต็มอิ่ม แม้ว่าจะนอนหลับนานแล้วก็ตาม
พฤติกรรมอื่น ๆ ที่อาจเกี่ยวข้อง
- ปวดศีรษะตอนเช้า: ตื่นนอนพร้อมอาการปวดศีรษะ โดยเฉพาะบริเวณขมับหรือท้ายทอย
- หงุดหงิดง่าย: อารมณ์แปรปรวน ฉุนเฉียวง่ายกว่าปกติ
- ความจำไม่ดี: หลงลืมง่าย จำเรื่องราวต่างๆ ไม่ค่อยได้
- สมาธิสั้น: ไม่มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งต่างๆ ได้นาน
- น้ำหนักขึ้น: มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
หยุดหายใจขณะหลับ รักษาได้ ไม่ต้องกังวล !
การรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea: OSA) มีหลายวิธี โดยแพทย์จะเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ สาเหตุ และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย โดยมีวิธีต่าง ๆ ดังนี้
1. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
- ลดน้ำหนัก: หากมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน การลดน้ำหนักจะช่วยลดไขมันสะสมบริเวณคอ ทำให้ทางเดินหายใจกว้างขึ้น
- ปรับท่านอน: การนอนตะแคงช่วยลดการกดทับของลิ้นและเพดานอ่อน ทำให้ทางเดินหายใจเปิดโล่งมากขึ้น
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยานอนหลับ: สารเหล่านี้มีฤทธิ์กดประสาท ทำให้กล้ามเนื้อในลำคอคลายตัวมากขึ้น ทำให้ทางเดินหายใจแคบลง
- เลิกสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่ทำให้เกิดการอักเสบและบวมของเนื้อเยื่อในทางเดินหายใจ ทำให้ทางเดินหายใจแคบลง
2. อุปกรณ์ช่วยหายใจขณะหลับ (Continuous Positive Airway Pressure: CPAP)
CPAP เป็นอุปกรณ์ที่เป่าลมเข้าไปในทางเดินหายใจขณะหลับ เพื่อให้ทางเดินหายใจเปิดโล่งอยู่เสมอ เป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับผู้ป่วย OSA ระดับปานกลางถึงรุนแรง ผู้ป่วยจะต้องสวมหน้ากากขณะนอนหลับ เพื่อรับลมจากเครื่อง CPAP
3. อุปกรณ์ทางทันตกรรม (Oral Appliances)
อุปกรณ์ทางทันตกรรม เช่น เฝือกสบฟัน (Mandibular Advancement Device: MAD) ช่วยปรับตำแหน่งขากรรไกรล่างและลิ้น เพื่อเปิดทางเดินหายใจ
อุปกรณ์เหล่านี้เหมาะสำหรับผู้ป่วย OSA ระดับอ่อนถึงปานกลาง หรือผู้ที่ไม่สามารถใช้ CPAP ได้
4. การผ่าตัด
ในบางกรณี อาจจำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อแก้ไขโครงสร้างทางเดินหายใจที่ผิดปกติ เช่น
- การผ่าตัดต่อมทอนซิลและอะดีนอยด์ (Tonsillectomy and Adenoidectomy): เหมาะสำหรับผู้ที่มีต่อมทอนซิลและอะดีนอยด์โต
- การผ่าตัดแก้ไขผนังกั้นช่องจมูกคด (Septoplasty): ช่วยให้การหายใจทางจมูกดีขึ้น
- การผ่าตัดขากรรไกร (Maxillomandibular Advancement: MMA): เป็นการผ่าตัดเลื่อนขากรรไกรบนและล่างไปข้างหน้า เพื่อขยาย
- ทางเดินหายใจ (มักใช้ในผู้ป่วยที่มีโครงสร้างใบหน้าที่ผิดปกติ)
- เลเซอร์แก้นอนกรน (Laser-Assisted Uvulopalatoplasty: LAUP): เป็นการใช้เลเซอร์เพื่อปรับแต่งเนื้อเยื่อในช่องคอ เพื่อลดการสั่นสะเทือนและเปิดทางเดินหายใจ
5. การรักษาอื่นๆ
- การฝึกบริหารกล้ามเนื้อในช่องปากและลำคอ (Myofunctional Therapy) ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อในบริเวณดังกล่าว เพื่อลดการหย่อนยานของเนื้อเยื่อ
- การรักษาโรคประจำตัว หากมีโรคประจำตัวที่ส่งผลต่อภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เช่น ภูมิแพ้ ควรได้รับการรักษาที่เหมาะสม
บทสรุป หยุดหายใจขณะหลับ ไม่ใช่เรื่องไกลตัว ดูแลคนที่คุณรักให้ปลอดภัย
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ อาจฟังดูเป็นเรื่องไกลตัว แต่แท้จริงแล้วเป็นภัยเงียบที่อาจซ่อนอยู่ในคนใกล้ชิดของเรา หากปล่อยทิ้งไว้ อาจส่งผลเสียร้ายแรงต่อสุขภาพ ดังนั้น สิ่งสำคัญคือการ ตระหนัก ถึงความเสี่ยงนี้ และ ใส่ใจ สังเกตอาการผิดปกติในคนที่คุณรัก
การช่วยเหลือและ สนับสนุน ให้พวกเขาไปพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด นอกจากนี้ การสร้างความเข้าใจ และ ให้กำลังใจ รวมถึงการช่วยเหลือในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้เพื่อช่วยให้พวกเขารับมือกับภาวะนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ
หากคุณสนใจความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับภาวะหยุดหายใจขณะหลับและวิธีการรักษาโดยหัตถการต่าง ๆ สามารถติดตามได้ที่ช่องทางดังต่อไปนี้
- Tel : 080-500-0123
- Line : @apexbeauty
- Tiktok : apexprofoundbeauty
- Facebook : APEX Hospital & Beauty Clinic
- Instagram : apexbeauty
- Youtube : Apex Beauty Clinic
- X (Twitter) : ApexProfound










