
ปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้าน เป็นภาวะที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและภาพลักษณ์ของคนจำนวนมาก ไม่ว่าจะมีสาเหตุมาจากพันธุกรรม ฮอร์โมน หรือปัจจัยอื่น ๆ ก็ตาม ซึ่งในปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนทั่วไป ทำให้ ‘ปลูกผม’ กลายเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยม ในการฟื้นฟูแนวผมให้กลับมาดูหนาแน่นและดูเป็นธรรมชาติอีกครั้ง ซึ่งวันนี้ Apex จะพาทุกคนไปเจาะลึกทุกเรื่องน่ารู้ พร้อมอัปเดตปลูกผมราคาเท่าไหร่ ตลอดจนเปิดภาพรีวิวแน่น ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจ
ปลูกผม คืออะไร ?
การปลูกผม (Hair Transplantation) คือหัตถการที่นำรากผมจากบริเวณที่แข็งแรงและไม่ได้รับผลกระทบจากฮอร์โมน DHT (ส่วนใหญ่อยู่บริเวณท้ายทอยและด้านข้าง) มาปลูกถ่ายบริเวณที่มีปัญหาผมบางหรือศีรษะล้าน โดยที่เซลล์รากผมที่ย้ายมาจะต้องคงคุณสมบัติเดิมเอาไว้ ต้องมีความแข็งแรงและทนทาน เพื่อให้เส้นผมที่งอกขึ้นใหม่สามารถอยู่ได้ และมีวงจรการเจริญเติบโตตามปกติ ซึ่งรายละเอียดของขั้นตอนอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับเทคนิคและวิธีการของโปรแกรมปลูกผมที่เลือกใช้
ปลูกผม มีกี่แบบ ต่างกันอย่างไร
โปรแกรมปลูกผม FUE (Follicular Unit Excision)
โปรแกรมปลูกผม FUT (Follicular Unit Transplantation)
เป็นเทคนิคดั้งเดิม โดยแพทย์จะผ่าตัดนำชิ้นส่วนหนังศีรษะขนาดเล็กบริเวณท้ายทอยออกมา จากนั้นทีมแพทย์จะนำชิ้นหนังศีรษะดังกล่าวมาคัดแยกกอผมแต่ละกอภายใต้กล้องจุลทรรศน์ ก่อนจะนำไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ และทำการเย็บปิดแผลที่ท้ายทอย
ตารางเปรียบเทียบโปรแกรมปลูกผม FUE vs FUT
หัวข้อ | โปรแกรมปลูกผม FUE | โปรแกรมปลูกผม FUT |
---|---|---|
วิธีการเก็บรากผม | ใช้หัวเจาะขนาดเล็กเจาะทีละกอ | ตัดหนังศีรษะเป็นแถบแล้วคัดแยก |
รอยแผลเป็น | เป็นจุดเล็ก ๆ กระจายตัว | เป็นเส้นตรงแนวยาว |
ระยะเวลาพักฟื้น | ค่อนข้างสั้น (ประมาณ 3–7 วัน) | นานกว่า (ประมาณ 10–14 วัน) |
จำนวนกราฟท์/ครั้ง | เหมาะกับจำนวนน้อยถึงปานกลาง | เหมาะกับจำนวนมาก |
ข้อดีของการทำปลูกผม
ปัญหาผมร่วง ผมบาง อาจไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่ยังส่งผลกระทบต่อความมั่นใจ ทำให้โปรแกรมปลูกผมกลายเป็นทางออกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยข้อดีที่ตอบโจทย์หลายด้าน ดังนี้
- ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้ค่อนข้างนาน
- สามารถออกแบบแนวผมให้เหมาะกับใบหน้าได้
- ช่วยฟื้นฟูความมั่นใจและปรับบุคลิกให้ดูดีขึ้น
- ลดความยุ่งยากในการปกปิดหนังศีรษะ
- เป็นการลงทุนเพื่อลดค่าใช้จ่ายต่อเนื่องในระยะยาว
- เป็นหัตถการที่มีความเสี่ยงน้อย หากดูแลโดยแพทย์
- ระยะเวลาพักฟื้นสั้น
- ราคาเข้าถึงง่าย มีหลายแพ็กเกจให้เลือกใช้
การปลูกผมเหมาะกับใครบ้าง
การปลูกผมเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยการประเมินอย่างละเอียดจากแพทย์ ซึ่งผู้ที่เหมาะกับการปลูกผมมักมีคุณสมบัติดังนี้
- ผู้ที่มีปัญหาผมบางหรือศีรษะล้านจากพันธุกรรมและฮอร์โมน
- ผู้ที่มีภาวะผมร่วงอยู่ในระยะคงที่แล้ว (ไม่ร่วงอย่างต่อเนื่องรุนแรง)
- ผู้ที่มีปริมาณเส้นผมบริเวณท้ายทอย (Donor Area) หนาแน่นและแข็งแรงเพียงพอ
- ผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นอุปสรรคต่อการผ่าตัด
- ผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาแนวผมสูง หรือปรับกรอบหน้าให้ได้สัดส่วน
- ผู้ที่มีความเข้าใจในกระบวนการและมีคาดหวังต่อผลลัพธ์ที่สมเหตุสมผล
การเตรียมตัวก่อนทำการปลูกผม
เพื่อให้ผลลัพธ์การปลูกผมออกมาดูเป็นธรรมชาติ การเตรียมตัวอย่างเหมาะสมถือว่ามีความสำคัญ เพราะนี่คือปัจจัยที่จะช่วยลดความเสี่ยงระหว่างทำหัตถการ และส่งเสริมให้กราฟต์ผมที่ปลูกใหม่มีความแข็งแรง พร้อมเติบโตอย่างเต็มที่ ดังนี้
- หาข้อมูล รวมถึงดูรีวิวและผลงานจริงของคลินิกหรือแพทย์ที่ต้องการใช้บริการ
- แจ้งแพทย์ผู้ให้บริการ เกี่ยวกับการใช้ยาและโรคประจำตัว
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงวิตามินและอาหารเสริมบางชนิด
- หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ และเครื่องดื่มคาเฟอีนในวันทำหัตถการ
- หลีกเลี่ยงการใช้สารช่วยในการเจริญเติบโตของเส้นผม (ยาปลูกผม)
- พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้มาก และทานอาหารที่มีประโยชน์
ขั้นตอนการปลูกผม ตั้งแต่การปรึกษาจนถึงการดูแลหลังทำ
ขั้นตอนการปรึกษาและวางแผน
แพทย์จะประเมินสภาพเส้นผมและหนังศีรษะ เพื่อวินิจฉัยสาเหตุของผมร่วง และวางแผนการทำหัตถการที่เหมาะสม เช่น การออกแบบแนวผม ประเมินจำนวนกราฟต์ที่ต้องใช้ และเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ซึ่งผู้เข้ารับบริการควรแจ้งความต้องการ เพื่อให้แพทย์ช่วยประเมินความเป็นไปได้
ขั้นตอนการเก็บรากผม
มีรายละเอียดต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวิธีการที่ใช้ โดยการเก็บรากผมด้วยโปรแกรม FUT จะเป็นการผ่าตัดนำชิ้นหนังศีรษะจากท้ายทอยออกมาทั้งชิ้นแล้วเย็บปิดแผล จากนั้นทีมแพทย์จะนำชิ้นเนื้อนั้นไปคัดแยกเป็นกอผมใต้กล้องจุลทรรศน์ ขณะที่โปรแกรม FUE จะใช้หัวเจาะไฟฟ้าขนาดเล็ก เจาะเก็บกอผมออกมาทีละกอโดยตรงจากหนังศีรษะ
ขั้นตอนการเตรียมรากผม
รากผมที่ได้จะถูกเตรียม หรือนำกอผมแต่ละกอมาตัดแต่งไขมันส่วนเกินออก พร้อมทั้งคัดแยกตามจำนวนเส้นผม แล้วนำมาจัดเรียงบนถาดเตรียมปลูกอย่างเป็นระเบียบ เพื่อให้แพทย์สามารถเลือกใช้กอผมแต่ละขนาดได้อย่างเหมาะสม ในการสร้างผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ (ขึ้นอยู่กับแพทย์แต่ละท่าน)
ขั้นตอนการปลูกผม
การปลูกผมที่ APEX เราให้บริการโดยพญ.นันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ เลขที่ใบอนุญาต : 12117 แพทย์เฉพาะทางสาขา ตจวิทยา ( Dermatology ) โดยรากผมจะถูกนำไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ โดยใช้คีมปลายแหลม เพื่อวางกอผมลงในช่องเล็ก ๆ หรืออาจใช้เครื่องมือที่เรียกว่าปากกาปลูกผม ช่วยสร้างช่องและนำกราฟต์ลงปลูกได้ในขั้นตอนเดียวได้ ขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้ให้บริการ
การดูแลหลังปลูกผม
หลังการปลูกผม แพทย์หรือผู้ให้บริการจะมีการแนะนำวิธีการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม เพื่อช่วยในการฟื้นตัว และช่วยให้รากผมที่ปลูกเติบโตได้อย่างเต็มที่ ดังนนี้
- ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก ควรระมัดระวังไม่ให้ศีรษะกระทบกระเทือน นอนหมอนสูงเพื่อลดอาการบวม
- ทำความสะอาดแผลหรือทานยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- หลีกเลี่ยงการเกาหรือสัมผัสบริเวณที่ปลูกผม เพราะกราฟต์ผมยังบอบบางและอาจหลุดได้ง่าย
- หากแผลเริ่มมีสะเก็ด ให้ปล่อยให้สะเก็ดหลุดออกไปเอง ไม่ควรแกะ หรือเกา
- เริ่มสระผมได้ตามคำแนะนำของแพทย์ โดยใช้แชมพูสูตรอ่อนโยน และห้ามใช้ฝักบัวฉีดลงบนศีรษะโดยตรง
- ควรปกป้องหนังศีรษะจากแสงแดดจัดด้วยการสวมหมวกเมื่อต้องอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน
ความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจพบได้จากการปลูกผม
เนื่องจากการปลูกผม อาจเรียกได้ว่าเป็นหัตถการที่ใกล้เคียงกับการผ่าตัดเล็ก จึงเป็นเรื่องปกติที่ร่างกายจะมีการตอบสนองและเกิดผลข้างเคียงขึ้นได้ อย่างไรก็ตามความเสี่ยงส่วนใหญ่เป็นเพียงอาการชั่วคราวที่สามารถจัดการได้และไม่เป็นอันตรายร้ายแรง หากดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม ตามคำแนะนำของแพทย์ โดยผลข้างเคียงที่พบบ่อย ได้แก่
- อาการบวม : เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุด โดยอาจบวมบริเวณหน้าผาก ระหว่างคิ้ว หรือเปลือกตา มักจะเกิดขึ้นในวันที่ 2-3 หลังผ่าตัด และจะค่อย ๆ ยุบลงเองภายใน 4-7 วัน การนอนหนุนหมอนสูงจะช่วยลดอาการบวมได้
- อาการปวดและไม่สบายตัว : อาจมีอาการปวดตึงบริเวณที่เย็บแผล (กรณีโปรแกรม FUT) หรือเจ็บบริเวณที่เจาะผม (กรณีโปรแกรม FUE) รวมถึงบริเวณที่ปลูก ซึ่งสามารถควบคุมได้ด้วยยาแก้ปวดที่แพทย์สั่ง
- อาการชา : อาจรู้สึกชาบริเวณที่ปลูกผมหรือบริเวณที่นำผมออกมา เนื่องจากเส้นประสาทขนาดเล็กถูกรบกวน อาการนี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นและกลับมาเป็นปกติภายในเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน
- อาการคัน : มักเกิดขึ้นทั้งบริเวณที่ปลูกและบริเวณท้ายทอย ห้ามเกาเด็ดขาด เพราะอาจทำให้กราฟต์ผมที่ยังไม่แข็งแรงหลุดได้ ควรใช้วิธีฉีดสเปรย์น้ำเกลือเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นหรือทานยาแก้แพ้ตามคำแนะนำของแพทย์
- เลือดออกเล็กน้อย : อาจมีเลือดซึมเล็กน้อยในช่วง 1-2 วันแรก ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
เช็กราคาปลูกผม พร้อมอัปเดตโปรโมชันล่าสุดที่ APEX
APEX มีบริการโปรแกรมปลูกผมด้วยเทคนิคแขนกล ซึ่งประเมินและทำหัตถการโดยแพทย์ ในราคากราฟต์ละ 120 บาท พร้อมโปรโมชันพิเศษ ปลูกผมแบบเหมาไม่จำกัดกราฟต์ ราคา 89,000 บาท (โปรโมชันนี้ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 เท่านั้น)
*หมายเหตุ : เพื่อข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนที่สุด ขอแนะนำให้สอบถามรายละเอียดโปรโมชันและเงื่อนไขต่าง ๆ กับเจ้าหน้าที่ของเราโดยตรงก่อนใช้บริการ
รีวิวปลูกผม
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการปลูกผม
ปลูกผมที่ไหนดี
ปลูกผมเจ็บไหม
ผมที่ปลูกจะอยู่ถาวรไหม
ปลูกผมผู้หญิง ต่างจากปลูกผมผู้ชายไหม
สรุปความเปลี่ยนแปลง และข้อดีหลังการปลูกผมที่ตอบโจทย์
การปลูกผมเป็นทางเลือกที่ช่วยแก้ปัญหาผมบาง ล้าน หรือแนวผมที่ถอยร่นซึ่งส่งผลต่อความมั่นใจ โดยใช้วิธีย้ายเซลล์รากผมที่แข็งแรงของตนเอง มาปลูกใหม่ในบริเวณที่มีปัญหา ทำให้เมื่อเส้นผมขึ้นเต็มที่แล้วจะดูเป็นธรรมชาติ และกลมกลืนไปกับผมเดิมที่มีอยู่ ช่วยฟื้นฟูภาพลักษณ์ให้ดูดีขึ้น พร้อมเพิ่มอิสระในการจัดแต่งทรงผมได้อีกครั้งแบบไม่ต้องปกปิด
สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับโปรแกรมปลูกผม หรือสอบถามรายละเอียดหัตถการอื่น ๆ ของ APEX เพิ่มเติมได้ที่
ช่องทางการติดต่อ
- Tel : 080-500-0123
- Line : @apexbeauty
- Tiktok : apexprofoundbeauty
- Facebook : APEX Hospital & Beauty Clinic
- Instagram : apexbeauty
- Youtube : Apex Beauty Clinic
- X (Twitter) : ApexProfound
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับ Apex Hair Center สาขาทองหล่อ







