อาการปลายจมูกแดงหลังทำจมูกถือเป็นข้อกังวลอันดับต้น ๆ ของคนที่เพิ่งไปเสริมจมูกมา เพราะในขณะที่บางกรณีเป็นเพียงส่วนหนึ่งของกระบวนการฟื้นตัวตามปกติ แต่ในบางกรณีก็อาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจถึงสาเหตุของปลายจมูกแดง พร้อมวิธีสังเกตง่าย ๆ เพื่อเช็กว่าอาการแบบไหนที่ไม่อันตราย และแบบไหนที่เสี่ยงต่อการทะลุควรรีบไปพบแพทย์ค่ะ
สาเหตุหลักที่ทำให้ปลายจมูกแดงหลังเสริมจมูก
อาการปลายจมูกแดงหลังศัลยกรรมเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยจนแทบจะเป็นเรื่องปกติ ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักไม่ใช่สัญญาณอันตราย แต่เป็นเพียงการตอบสนองของร่างกายในช่วงพักฟื้นตามธรรมชาติ สาเหตุหลักที่ทำให้ปลายจมูกแดงมีดังนี้
- การยืดขยายของผิวหนัง: เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด เมื่อใส่ซิลิโคนเข้าไป ผิวหนังบริเวณปลายจมูกต้องยืดตัวออกเพื่อรองรับวัสดุใหม่ ทำให้ร่างกายส่งเลือดมาหล่อเลี้ยงบริเวณนั้นมากขึ้นเพื่อปรับสภาพ จึงเกิดเป็นรอยแดงระเรื่อในช่วงแรก
- กระบวนการฟื้นตัวหลังผ่าตัด: หลังการผ่าตัดทุกชนิด ร่างกายจะเกิดกระบวนการอักเสบเล็กน้อยเพื่อซ่อมแซมตัวเอง ซึ่งอาการบวมและแดงถือเป็นส่วนหนึ่งของกลไกการฟื้นฟูนี้ และจะค่อยๆ บรรเทาลงเมื่อแผลหายดี
- การระคายเคืองจากปัจจัยภายนอก: การใส่หน้ากากอนามัยที่กดทับหรือเสียดสีกับปลายจมูกโดยตรง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ เช่น การอยู่ในที่อากาศร้อนจัด ก็สามารถกระตุ้นให้ผิวหนังที่ยังบอบบางบริเวณนั้นแดงขึ้นได้ชั่วคราว
ปลายจมูกแดงแบบไหน ที่ยังถือว่าไม่อันตราย
หลังเสริมจมูกการที่ปลายจมูกมีสีแดงระเรื่อขึ้นมาอาจทำให้หลายคนใจคอไม่ดี แต่ความจริงแล้วอาการแดงส่วนใหญ่มักเป็นเพียงปฏิกิริยาปกติของร่างกายในช่วงพักฟื้น ลองมาเช็กกันดูว่าอาการแดงแบบไหนที่ยังอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยและไม่ต้องกังวลค่ะ
- เป็นสีแดงระเรื่อหรืออมชมพู: ความแดงจะกระจายตัวทั่วบริเวณปลายจมูก ไม่ได้แดงจัดเป็นวงแคบหรือเป็นจุดเดียวที่ปลายสุด
- ไม่มีอาการเจ็บปวดรุนแรงร่วมด้วย: อาจรู้สึกตึงหรือเจ็บเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้บ้าง แต่จะไม่มีอาการปวดแปลบ ๆ ตลอดเวลาหรือมีหนองของเหลวไหลซึมออกมา
- อาการแดงจะดีขึ้นตามเวลา: รอยแดงจะค่อย ๆ จางลงเองภายใน 1-3 เดือนแรกหลังผ่าตัด ไม่ได้มีสีเข้มขึ้นหรือแดงนานผิดปกติ
- ผิวหนังยังดูปกติไม่บางใส: ผิวบริเวณปลายจมูกไม่ได้ดูบางลงจนมันวาวผิดปกติ และไม่สามารถมองเห็นเป็นเงาหรือขอบของซิลิโคนได้
วิธีดูแลตัวเองเบื้องต้นเมื่อเริ่มมีอาการปลายจมูกแดง
เมื่อสังเกตเห็นว่าปลายจมูกเริ่มมีรอยแดงขึ้นมา หากยังไม่มีอาการเจ็บปวดรุนแรงหรือสัญญาณอันตรายอื่น ๆ การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีในเบื้องต้นก็สามารถช่วยบรรเทาอาการและส่งเสริมกระบวนการฟื้นตัวได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีวิธีการดังนี้
- ประคบเย็นเบา ๆ: ใช้เจลแพ็คเย็นหรือผ้าห่อน้ำแข็งประคบบริเวณสันจมูกและข้างแก้ม เพื่อช่วยลดอาการบวมโดยรวม ข้อควรระวังคือหลีกเลี่ยงการกดทับหรือวางน้ำแข็งลงบนปลายจมูกโดยตรง
- หลีกเลี่ยงการเสียดสี: พยายามเลือกใช้หน้ากากอนามัยทรง 3D หรือทรงที่มีโครงชัดเจน เพื่อให้เกิดช่องว่างและไม่สัมผัสกับปลายจมูกโดยตรงและที่สำคัญคือต้องงดการจับ สัมผัส หรือบีบแคะบริเวณดังกล่าวเด็ดขาด
- นอนหมอนสูง: จัดท่านอนให้ศีรษะอยู่สูงกว่าลำตัวเสมอ จะช่วยลดการคั่งของเลือดและของเหลวบริเวณใบหน้า ทำให้อาการบวมและแดงยุบลงได้เร็วขึ้น
- งดทานของแสลง: ในช่วงนี้ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารหมักดองและอาหารรสจัด เพราะอาหารเหล่านี้มีส่วนกระตุ้นการอักเสบและทำให้หลอดเลือดขยายตัว ซึ่งอาจทำให้อาการแดงเป็นมากขึ้นได้
- สังเกตอาการ: หากดูแลตัวเองแล้วอาการแดงไม่ดีขึ้นใน 2-3 วัน หรือมีอาการน่ากังวลอื่นร่วมด้วย เช่น ปวดมากขึ้น บวมขึ้นหรือรู้สึกร้อนที่ปลายจมูก ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
เช็คสัญญาณอันตรายของปลายจมูกแดงที่ต้องรีบพบแพทย์
แม้ว่าอาการปลายจมูกแดงส่วนใหญ่จะเป็นเพียงกระบวนการฟื้นตัวตามปกติ แต่ก็มีสัญญาณเตือนบางอย่างที่ห้ามมองข้ามเด็ดขาด เพราะอาจบ่งชี้ถึงภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่ต้องได้รับการรักษาโดยด่วน หากพบอาการเหล่านี้ควรรีบกลับไปพบแพทย์ทันที
- แดงเข้มเป็นจุดเดียว: รอยแดงไม่กระจายตัว แต่จะแดงจัดเป็นวงแคบ ๆ หรือเป็นจุดเดียวที่ปลายจมูก ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ซิลิโคนกดทับโดยตรง
- ผิวหนังบางใสและมันวาว: ปลายจมูกดูบางลงอย่างเห็นได้ชัดจนผิวมีความมันวาวผิดปกติ บางครั้งอาจเห็นเป็นเงาของซิลิโคนใต้ผิวหนัง
- อาการปวดเพิ่มขึ้นหรือปวดตลอดเวลา: รู้สึกเจ็บแปลบๆ เสียวๆ เหมือนมีเข็มทิ่ม หรือปวดตุบๆ อย่างต่อเนื่องแม้ไม่ได้ไปสัมผัส
- มีตุ่มคล้ายสิวหรือมีของเหลวซึม: ปรากฏตุ่มนูนแดงหรือมีหัวคล้ายสิวขึ้นที่ปลายจมูก หรือในกรณีที่รุนแรงคือมีน้ำเหลืองหรือหนองไหลซึมออกมา
- ปลายจมูกร้อนผิดปกติ: เมื่อสัมผัสจะรู้สึกว่าบริเวณปลายจมูกที่แดงนั้นร้อนกว่าผิวหนังส่วนอื่น ซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนของการอักเสบติดเชื้อ
วิธีลดความเสี่ยงอาการปลายจมูกแดงทำอย่างไร
การป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไขเสมอ โดยเฉพาะความเสี่ยงเรื่องปลายจมูกแดงที่หลายคนกังวลใจ ซึ่งเราสามารถลดโอกาสเกิดปัญหานี้ได้อย่างมาก ด้วยการใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมตัวไปจนถึงการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด
การเลือกคลินิกและแพทย์
การเลือกแพทย์และสถานพยาบาล แพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถประเมินโครงสร้างจมูกเดิมและวางแผนการผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกขนาดซิลิโคน การเหลาซิลิโคนให้พอดี หรือการเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละราย
การเลือกทรงและเทคนิคที่เหมาะสม
ไม่ฝืนเนื้อ คือสิ่งสำคัญของการเสริมจมูกให้ปลอดภัย ควรเลือกความโด่งพุ่งที่เหมาะสมกับฐานจมูกและปริมาณเนื้อจมูกเดิมของตัวเอง การฝืนใส่ซิลิโคนที่ใหญ่หรือยาวเกินไป จะทำให้ผิวหนังที่ปลายจมูกตึงและรับแรงกดทับมากเกินไป ซึ่งเป็นสาเหตุโดยตรงของอาการปลายจมูกแดง บาง และเสี่ยงทะลุ การใช้เทคนิคเสริมกระดูกอ่อนหลังหูหรือเนื้อเยื่อเทียมรองปลาย ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยลดแรงกดทับจากซิลิโคนได้ดี
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดอย่างเคร่งครัด
แม้การผ่าตัดจะผ่านไปได้ด้วยดี แต่การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดก็เป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่ง ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่นการทานยาให้ครบ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ อาหารหมักดอง และอาหารรสจัดที่กระตุ้นการอักเสบเป็นต้น
อาการปลายจมูกแดงหลังเสริมจมูกอาจเป็นเรื่องปกติในช่วงพักฟื้น แต่ควรสังเกตลักษณะรอยแดงและอาการร่วมอื่น ๆ อย่างสม่ำเสมอ หากพบความผิดปกติหรือมีความกังวลแม้เพียงเล็กน้อย สามารถนัดเข้ามาปรึกษาแพทย์ได้ที่ APEX ทางช่องทางดังต่อไปนี้
ช่องทางการติดต่อ
- Tel : 088-870-0039
- Line : @apexsurgery
- Tiktok : apex_surgery
- Facebook : APEX Surgery Hospital
- Instagram : apex_surgery
- Youtube : APEX Surgery Hospital
- X (Twitter) : ApexProfound
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัท ฯ กำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับ APEX Surgery Hospital : โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเอเพ็กซ์ สาขาเพลินจิต