หนึ่งในความกังวลของคนที่อยากดูดไขมันแต่ยังลังเล คือปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ เพราะเมื่อไขมันถูกกำจัดออกไปอย่างรวดเร็ว อาจทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นขาดความยืดหยุ่นและเกิดเป็นความย้วยได้ ซึ่งในปัจจุบันได้มีการนำเอาโปรแกรม J Plasma เครื่องมือที่ผสานการทำงานระหว่างคลื่น RF และก๊าซฮีเลียม เข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อผลลัพธ์ที่น่าพอใจมากขึ้น ซึ่งเครื่องนี้จะมีข้อดีอะไรอีกบ้าง วันนี้ Apex รวมข้อมูลน่ารู้มาให้แล้ว
โปรแกรม J Plasma คืออะไร
โปรแกรม J Plasma (เจพลาสมา) คือเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ใช้ในการยกกระชับเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง โดยอาศัยการทำงานร่วมกันระหว่างพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (Radiofrequency – RF) และก๊าซฮีเลียม (Helium Gas) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่และทำให้คอลลาเจนเดิมหดตัว ช่วยให้ผิวหนังที่หย่อนคล้อยกระชับขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ เหมาะสำหรับการใช้งานหลังดูดไขมัน ซึ่งมีโอกาสทำให้เกิดผิวหย่อนคล้อยได้ง่าย
หลักการทำงานของโปรแกรม J Plasma
ความโดดเด่นของโปรแกรม J Plasma ในการยกกระชับผิวหลังดูดไขมัน อยู่ที่หลักการทำงานซึ่งแตกต่างจากโปรแกรมยกกระชับโดยทั่วไป โดยเป็นการใช้พลังงานพลาสมาเข้าจัดการกับโครงสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังโดยตรง เพื่อคืนความตึงกระชับให้กับผิว โดยมีกลไกการทำงานเบื้องต้น ดังนี้
- การสร้างพลังงานพลาสมา : ปล่อยก๊าซฮีเลียมและพลังงาน RF ผ่านปลายท่อขนาดเล็ก ทำให้เกิดเป็นลำพลาสมาที่มีอุณหภูมิสูง แต่สามารถควบคุมได้อย่างเหมาะสม
- การส่งพลังงานสู่เนื้อเยื่อเป้าหมาย : พลังงานพลาสมาจะถูกส่งไปยัง โครงข่ายเส้นใยคอลลาเจนใต้ผิวหนัง (Fibrous Septal Network – FSN) ซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญที่ทำหน้าที่ยึดผิวหนังให้เต่งตึง
- การหดตัวของเส้นใย : พลังงานความร้อนจากพลาสมาจะทำให้เส้นใยคอลลาเจนเหล่านี้หดตัวลง เปรียบเสมือนการทำให้ผิว ‘หดกระชับ’ จากภายใน
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ : ความร้อนที่เกิดขึ้นยังช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ในระยะยาว ทำให้ผิวมีความแข็งแรงและยืดหยุ่นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- เย็นตัวหลังใช้งาน : ก๊าซฮีเลียมมีคุณสมบัติในการนำความร้อนที่ดีและเย็นตัวลง ทำให้เนื้อเยื่อรอบข้างได้รับผลกระทบน้อยที่สุด จึงช่วยลดความเสี่ยงและระยะเวลาในการพักฟื้น
ข้อดีของโปรแกรม J Plasma หลังการดูดไขมัน
เพื่อให้การดูดไขมันได้ผลลัพธ์ที่เหนือกว่าแค่การกำจัดไขมันส่วนเกิน การทำโปรแกรม J Plasma ควบคู่กันจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยยกระดับให้ผิวดูกระชับและเรียบเนียนขึ้น โดยมีข้อดีดังนี้
เพิ่มประสิทธิภาพการยกกระชับผิว
หลังการดูดไขมันจะมีช่องว่างเกิดขึ้นระหว่างชั้นผิวหนังและชั้นกล้ามเนื้อ การทำโปรแกรม J Plasma จะช่วยให้ผิวหนังชั้นบนหดตัวกลับเข้าไปแนบชิดกับกล้ามเนื้อได้ดีขึ้น ทำให้ผลลัพธ์หลังการดูดไขมันดูเรียบเนียนและได้สัดส่วนที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้ทันทีและในระยะยาว
ผู้เข้ารับการรักษาสามารถสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวที่กระชับขึ้นได้หลังทำ โดยผลลัพธ์ในระยะยาวจะค่อย ๆ ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องภายใน 3-6 เดือน (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล) เนื่องจากร่างกายมีการสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมาทดแทน ตามกลไกของร่างกาย
แผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก ไม่ต้องเปิดแผลเพิ่ม
เนื่องจากท่อของโปรแกรม J Plasma ค่อนข้างมีขนาดเล็ก ศัลยแพทย์จึงสามารถสอดเครื่องมือผ่านรอยแผลเดิมที่ใช้ในการดูดไขมันได้ ทำให้ไม่เกิดแผลเป็นเพิ่มเติม และลดความเจ็บปวดจากการผ่าตัดซ้ำซ้อน ซึ่งช่วยสร้างความอุ่นใจให้กับผู้เข้ารับบริการ
ฟื้นตัวไวและผลข้างเคียงค่อนข้างน้อย
ด้วยเทคโนโลยีที่ให้พลังงานค่อนข้างแม่นยำ และมีการควบคุมอุณหภูมิในการใช้งานได้เป็นอย่างดี ทำให้เนื้อเยื่อโดยรอบมีโอกาสบอบช้ำหรือเสียหายค่อนข้างน้อย ส่งผลให้ระยะเวลาในการพักฟื้นสั้นกว่าการผ่าตัดยกกระชับผิวหนังแบบดั้งเดิม
เปรียบเทียบการดูดไขมันกับโปรแกรม J Plasma vs ดูดไขมันอย่างเดียว
หัวข้อ | ดูดไขมัน | ดูดไขมัน + Program J Plasma |
---|---|---|
เป้าหมายหลัก | กำจัดไขมันส่วนเกินเป็นหลัก | กำจัดไขมันส่วนเกิน และยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยไปพร้อมกัน |
ผลลัพธ์ | อาจเกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุหรือผิวขาดความยืดหยุ่น | ผิวดูเรียบ เนียนตึง กระชับ แนบไปกับกล้ามเนื้อ ลดปัญหาผิวหย่อนหรือเป็นรอนคลื่นหลังดูดไขมัน |
ความซับซ้อนและเวลา | ขั้นตอนน้อยกว่า ใช้เวลาทำหัตถการสั้นกว่า | มีขั้นตอนเพิ่มเติมหลังดูดไขมัน ใช้เวลาในการทำหัตถการนานกว่า |
ผู้ที่เหมาะสม | ผู้ที่อายุน้อย, มีสภาพผิวดีและยืดหยุ่น, ดูดไขมันออกในปริมาณไม่มากนัก | ผู้ที่มีปัญหาเรื่องผิวหย่อนคล้อย, ผู้มีอายุ, ผู้ที่ลดน้ำหนักเยอะ หรือผิวขาดความยืดหยุ่น |
โปรแกรม J Plasma ทำบริเวณไหนได้บ้าง
โปรแกรม J Plasma มีความยืดหยุ่นในการใช้งานค่อนข้างสูง เพราะสามารถนำไปใช้ยกกระชับผิวได้ในหลายบริเวณ โดยเฉพาะจุดที่ได้รับความนิยมในการดูดไขมัน เช่น
- หน้าท้อง : กระชับผิวที่ย้วย ทำให้หน้าท้องแบนราบและเรียบเนียนขึ้น
- ต้นแขน : ลดท้องแขนที่ห้อยย้อย ทำให้แขนดูเรียวและเฟิร์มกระชับ
- ต้นขาด้านในและด้านนอก : แก้ปัญหาขาเบียด ลดผิวเหี่ยวย่น ทำให้ต้นขาเรียบเนียนขึ้น
- แผ่นหลังและปีกหลัง : เก็บเนื้อปลิ้นใต้สายเสื้อใน ทำให้แผ่นหลังดูเรียบเนียน ไม่เป็นลอน
- บริเวณใต้คาง (เหนียง) : ยกกระชับเหนียงที่หย่อนคล้อย ทำให้กรอบหน้าดูคมชัดขึ้น
ใครที่เหมาะกับการทำโปรแกรม J Plasma
ด้วยหลักการทำงานของโปรแกรม J Plasma ซึ่งช่วยลดผลกระทบต่อเนื้อเยื่อบริเวณใกล้เคียง ทำให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับดูแลปัญหาผิวหย่อนคล้อย และเหมาะสำหรับคนหลายกลุ่ม ดังนี้
- ผู้ที่เข้ารับการดูดไขมันและต้องการผลลัพธ์ผิวที่เรียบเนียน ไม่หย่อนคล้อย
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง ซึ่งไม่ต้องการหรือไม่พร้อมผ่าตัดใหญ่
- ผู้ที่มีน้ำหนักตัวคงที่และมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
- ผู้ที่มีความเข้าใจและมี ความคาดหวังที่สมเหตุสมผล
ใครที่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำโปรแกรม J Plasma
- ผู้ที่เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง
- ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานที่ควบคุมน้ำตาลได้ไม่ดี
- ผู้ที่มีโรคหัวใจ หรือใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ
- ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด หรือรับประทานยาละลายลิ่มเลือด
- สตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
- ผู้ที่มีการอักเสบหรือติดเชื้อบริเวณผิวหนัง
- ผู้ที่มีภาวะผิวหนังหย่อนคล้อยอย่างรุนแรง
ผลลัพธ์หลังทำโปรแกรม J Plasma
หลังการทำโปรแกรม J Plasma หลายคนต่างเฝ้ารอผลลัพธ์ที่จะเปลี่ยนผิวที่เคยหย่อนคล้อยให้กลับมาดูดีอีกครั้ง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นทั้งในระยะสั้น และต่อเนื่องเพื่อฟื้นฟูโครงสร้างผิวในระยะยาว ดังนี้
ผลลัพธ์หลังทำหัตถการ
ความเปลี่ยนแปลงแรกที่สังเกตเห็นได้หลังทำหัตถการ คือการหดตัวของผิวหนังในบริเวณที่ทำ ซึ่งเกิดจากพลังงานพลาสมาที่เข้าไปทำให้เส้นใยคอลลาเจนใต้ผิวหนังเกิดการหดรัดตัว หรือ “Shrink-Wrap Effect” ดังนี้
- การหดตัวของผิว : สามารถเห็นผิวที่หย่อนคล้อยลดลงและกระชับขึ้นได้
- ผิวเรียบเนียนขึ้น : ปัญหาผิวเปลือกส้มหรือผิวเป็นลอนคลื่นลดน้อยลง เนื่องจากผิวถูกทำให้ตึงและเรียบขึ้นจากภายใน
- เห็นกรอบสัดส่วนชัดเจนขึ้น : เมื่อความหย่อนคล้อยหมดไป จะช่วยเผยให้เห็นสัดส่วนและกล้ามเนื้อบริเวณนั้นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ผลลัพธ์ในระยะยาว
ผลลัพธ์ของโปรแกรม J Plasma ช่วยในการฟื้นฟูโครงสร้างผิวในระยะยาว เพราะพลังงานความร้อนที่ถูกส่งลงไปใต้ผิวจะทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ (Neocollagenesis) ดังนี้
- การกระตุ้นสร้างคอลลาเจนใหม่ : ร่างกายจะค่อย ๆ สร้างเส้นใยคอลลาเจนที่แข็งแรงและจัดเรียงตัวได้ดีขึ้นมาทดแทนของเดิม ทำให้โครงสร้างผิวแน่นและแข็งแรงขึ้น
- คุณภาพผิวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง : ผิวจะค่อย ๆ หนาขึ้น มีความยืดหยุ่นสูงขึ้น และดูสุขภาพดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยผลลัพธ์จะดีขึ้นอย่างเต็มที่ในช่วง 6-9 เดือนหลังทำ
- ผลลัพธ์ที่คงอยู่ค่อนข้างนาน : เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงนี้ เกิดจากการปรับโครงสร้างผิว ผลลัพธ์จึงดูเป็นธรรมชาติและคงอยู่ได้ค่อนข้างนาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน
ปัจจัยที่มีผลต่อผลลัพธ์ของโปรแกรม J Plasma
แม้ว่าโปรแกรม J Plasma จะเป็นเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การยกกระชับผิว แต่ผลลัพธ์สุดท้ายที่แต่ละคนจะได้รับนั้น อาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของเครื่องเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับปัจจัยเฉพาะบุคคลอีกหลายประการ เช่น
- สภาพผิวและความยืดหยุ่น : ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยน้อยถึงปานกลางและยังมีความยืดหยุ่นดี ในขณะที่ผู้ที่ผิวหย่อนคล้อยมากหรือมีรอยแตกลายเยอะ การตอบสนองอาจไม่ดีเท่าที่ควร
- อายุ : ผู้ที่อายุน้อยกว่ามักมีการฟื้นฟูและสร้างคอลลาเจนได้ดีกว่า ทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็วกว่าผู้ที่มีอายุมาก
- แพทย์หรือผู้ให้บริการ : ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุมพลังงานให้เหมาะสม เพื่อให้ผิวเรียบเนียนและกระชับอย่างสม่ำเสมอ
- ปริมาณไขมันใต้ผิว : เน้นการกระชับผิว หากมีไขมันสะสมมาก การทำร่วมกับการดูดไขมันจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพราะเป็นการกำจัดไขมันออกไปก่อนแล้วจึงกระชับผิวตาม
- การดูแลตัวเองหลังทำ : การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการสวมชุดกระชับตามระยะเวลาที่กำหนด จะช่วยลดบวมและทำให้ผิวเข้าที่ได้ดีมากยิ่งขึ้น
สรุปทำไมหลังดูดไขมันถึงควรทำโปรแกรม J Plasma
เพราะการดูดไขมันอาจเป็นการแก้ปัญหาที่ปริมาณไขมันเป็นหลัก แต่ไม่ได้ช่วยจัดการกับผิวหนังที่อาจหย่อนคล้อย โปรแกรม J Plasma จึงเข้ามาทำหน้าที่สำคัญในการกระชับผิวจากภายใน ให้ดูเรียบเนียนและหดตัวกลับเข้าที่อย่างเหมาะสม ดังนั้นการทำควบคู่กันจึงเป็นการสร้างผลลัพธ์ที่สมบูรณ์มากขึ้น มอบทั้งสัดส่วนที่เล็กลง และดูเฟิร์มกระชับไปพร้อมกัน
สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการทำโปรแกรม J Plasma หลังดูดไขมัน หรือสอบถามรายละเอียดหัตถการอื่น ๆ ของ APEX เพิ่มเติมได้ที่
ช่องทางการติดต่อ
- Tel : 080-500-0123
- Line : @apexbeauty
- Tiktok : apexprofoundbeauty
- Facebook : APEX Hospital & Beauty Clinic
- Instagram : apexbeauty
- Youtube : Apex Beauty Clinic
- X (Twitter) : ApexProfound
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัท ฯ กำหนด
ใช้บริการได้ที่ APEX Surgery Hospital : โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเอเพ็กซ์ สาขาเพลินจิต
อ้างอิงข้อมูล
Renuvion. (n.d.). A unique technology for plastic surgery and cosmetic dermatology.
https://www.renuvion.com/
Mayo Clinic Staff. (n.d.). Liposuction.
https://www.mayoclinic.org/tests-procedures/liposuction/about/pac-20384586
University of Utah Health. (n.d.). Renuvion® J-Plasma.
https://healthcare.utah.edu/cosmetic/renuvion-j-plasma