ปัญหาช่องคลอดหย่อนคล้อยเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในผู้หญิงหลายคน การทำรีแพร์จึงเป็นทางออกที่หลายคนคาดหวัง แต่เบื้องหลังผลลัพธ์ที่วาดฝันก็มีข้อเสียของการทำรีแพร์ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวที่คุณต้องรู้และยอมรับให้ได้ บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจการผ่าตัดศัลยกรรมนี้ให้ลึกซึ้งก่อนตัดสินใจ เพื่อให้คุณไม่รู้สึกเสียดายในภายหลัง
การทำรีแพร์ คืออะไร
รีแพร์ คือการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งเพื่อซ่อมแซมและกระชับกล้ามเนื้อบริเวณช่องคลอดที่หย่อนคล้อยหรือฉีกขาด เพื่อช่วยให้ช่องคลอดกลับมากระชับขึ้น แก้ไขปัญหา และเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตคู่
ศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดเพื่อเย็บซ่อมแซมกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อบริเวณผนังช่องคลอดที่หย่อนยานหรือฉีกขาดเข้าหากัน พร้อมกับตัดแต่งเนื้อเยื่อส่วนเกินออกไป ทำให้ขนาดของช่องคลอดเล็กลงและตึงกระชับขึ้น โดยทั่วไปจะทำภายใต้การดมยาสลบหรือการฉีดยาชาเข้าไขสันหลัง และต้องใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 4-6 สัปดาห์
ข้อเสียของการทำรีแพร์ที่คุณต้องรู้
แม้การทำรีแพร์จะช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยได้ แต่ก็มาพร้อมข้อเสียของการทำรีแพร์ และความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้คุ้มค่ากับความเจ็บปวดและเวลาที่เสียไป
ความเสี่ยงในห้องผ่าตัดและภาวะแทรกซ้อน
- การบาดเจ็บ: หากเคยผ่าตัดมาก่อนหรือมีการอักเสบเรื้อรัง อาจเกิดพังผืดที่ทำให้การผ่าตัดยากขึ้นและเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ
- การเสียเลือด: อาจเกิดภาวะเลือดออกมากผิดปกติได้ โดยเฉพาะในผู้ที่รับประทานยาละลายลิ่มเลือด
- การติดเชื้อ: อาจเกิดขึ้นได้หากดูแลความสะอาดแผลไม่ดีพอ หรือในผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ
ผลกระทบในช่วงพักฟื้น (ระยะสั้น)
- ความเจ็บปวดรุนแรง: หลังหมดฤทธิ์ยาสลบจะมีความเจ็บปวดบริเวณแผลผ่าตัดอย่างมาก ซึ่งต้องใช้ยาแก้ปวดช่วยบรรเทา
- อาการบวมและรอยช้ำ: เป็นเรื่องปกติที่จะมีอาการบวมและฟกช้ำบริเวณอวัยวะเพศ ซึ่งอาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัวอย่างมากในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก
- ข้อจำกัดในการใช้ชีวิต: คุณจะต้องงดการมีเพศสัมพันธ์อย่างเด็ดขาดเป็นเวลาอย่างน้อย 6-8 สัปดาห์ รวมถึงงดการออกกำลังกายหนักหรือการยกของหนัก
- ความยากลำบากในการขับถ่าย: การอุจจาระหรือปัสสาวะอาจทำให้เจ็บแผลได้ แพทย์จึงมักให้ยาที่ช่วยให้อุจจาระนิ่มเพื่อลดการเบ่ง
ผลกระทบระยะยาว
- การเปลี่ยนแปลงของความรู้สึกทางเพศ: การผ่าตัดอาจทำลายเส้นประสาทบางส่วน ทำให้ความรู้สึกทางเพศลดลง หรือในทางตรงกันข้าม อาจเกิดภาวะเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์จากการเย็บที่ตึงเกินไป
- การเกิดพังผืดและแผลเป็นภายใน: ภายในช่องคลอดจะเกิดแผลเป็น ซึ่งอาจทำให้ช่องคลอดขาดความยืดหยุ่น รู้สึกแข็งกระด้าง หรือเจ็บลึก ๆ ขณะมีเพศสัมพันธ์ได้
- ผลกระทบต่อการมีบุตรในอนาคต: หากคุณยังวางแผนที่จะมีบุตร การคลอดบุตรทางช่องคลอดอีกครั้งจะทำลายผลลัพธ์ของการรีแพร์ทั้งหมด
เปรียบเทียบข้อเสียของการทำรีแพร์แต่ละแบบ
การทำรีแพร์มีทั้งแบบการผ่าตัดและแบบเลเซอร์ ซึ่งแต่ละแบบก็มี ข้อเสียของการทำรีแพร์ ที่แตกต่างกัน
ข้อเสียของการทำรีแพร์โดยการผ่าตัด
- เจ็บปวดและพักฟื้นนาน: หลังการผ่าตัดจะมีความเจ็บปวดอย่างมาก และต้องใช้เวลาพักฟื้นนานถึง 4-6 สัปดาห์
- ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนสูง: เนื่องจากการผ่าตัดมีความรุกรานสูง จึงมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ การตกเลือด หรือแผลเป็นได้ฃ
- ค่าใช้จ่ายสูงในครั้งเดียว: แม้จะเป็นการจ่ายครั้งเดียวจบ แต่ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดค่อนข้างสูงมาก
ข้อเสียของการทำรีแพร์โดยโปรแกรมเลเซอร์
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร: เลเซอร์ช่วยได้แค่การกระตุ้นคอลลาเจน ซึ่งผลลัพธ์จะอยู่ได้เพียงชั่วคราวและต้องทำซ้ำอย่างต่อเนื่อง
- ไม่สามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ: เลเซอร์ไม่สามารถซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่ฉีกขาดหรือหย่อนยานอย่างรุนแรงได้
- ต้องทำหลายครั้งกว่าจะเห็นผล: ไม่ใช่การทำครั้งเดียวจบเหมือนการผ่าตัด
- ไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาหย่อนคล้อยรุนแรง: สำหรับผู้หญิงที่ผ่านการคลอดบุตรหลายคนหรือมีภาวะหย่อนคล้อยมาก
สรุปข้อคิดก่อนตัดสินใจทำรีแพร์
การทำรีแพร์เป็นศัลยกรรมครั้งสำคัญที่ต้องชั่งน้ำหนักระหว่างประโยชน์ที่คาดหวังกับความเสี่ยงและผลกระทบมากมาย การปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมและทำความเข้าใจทุกขั้นตอนอย่างละเอียด คือสิ่งของการตัดสินใจเพื่อผลลัพธ์ที่ดีและการดูแลที่ปลอดภัยสำหรับตัวคุณเอง
หากท่านใดสนใจ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาแพทย์ ของ APEX ได้ที่ช่องทางดังต่อไปนี้
ช่องทางการติดต่อ
- Tel : 088-870-0039
- Line : @apexsurgery
- Tiktok : apex_surgery
- Facebook : APEX Surgery Hospital
- Instagram : apex_surgery
- Youtube : APEX Surgery Hospital
- X (Twitter) : ApexProfound
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัท ฯ กำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับ Apex Clinic สาขาทองหล่อ