ถุงใต้ตา เกิดจากอะไร หาคำตอบและวิธีแก้ไข

ปัญหากวนใจใต้ดวงตาที่ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและแก่กว่าวัย คงหนีไม่พ้น ‘ถุงใต้ตา’ ที่หลายคนกำลังเผชิญ บทความนี้จะพาทุกท่านไปไขทุกข้อสงสัยอย่างละเอียด ตั้งแต่การทำความรู้จักว่าถุงใต้ตาคืออะไร มีกี่ประเภท เกิดจากสาเหตุใด ไปจนถึงการแนะนำแนวทางแก้ไขที่หลากหลาย ตั้งแต่การดูแลตัวเองง่ายๆ ที่บ้าน ไปจนถึงหัตถการทางการแพทย์ เพื่อให้คุณเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการบอกลาปัญหานี้

ถุงใต้ตา คืออะไร ?

ถุงใต้ตา คือภาวะที่ผิวหนังใต้ดวงตามีลักษณะบวมนูนและหย่อนคล้อยออกมาอย่างเห็นได้ชัด เกิดจากการที่โครงสร้างผิวและกล้ามเนื้อรอบดวงตาอ่อนแอลงตามวัย ทำให้ไขมันที่เคยอยู่ในเบ้าตาเคลื่อนตัวออกมาสะสมอยู่ใต้ผิวหนังจนเกิดเป็นถุงนูนขึ้น

ถุงใต้ตาแท้ และ ถุงใต้ตาเทียม ต่างกันอย่างไร

แม้จะดูคล้ายกัน แต่ “ถุงใต้ตาแท้” และ “ถุงใต้ตาเทียม” มีสาเหตุและลักษณะที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน การทำความเข้าใจความต่างนี้จะช่วยให้เราสามารถเลือกวิธีดูแลและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด

ถุงใต้ตาแท้

• สาเหตุ: เกิดจากโครงสร้างผิวหนังและกล้ามเนื้อรอบดวงตาที่อ่อนแอหรือหย่อนคล้อยตามวัยและพันธุกรรม ทำให้ไขมันในเบ้าตาเคลื่อนตัวปูดนูนออกมา
• ลักษณะ: เป็นถุงนูนชัดเจนและคงอยู่ตลอดเวลา แม้จะพักผ่อนเต็มที่แล้วก็ตาม เมื่อลองใช้นิ้วกดจะรู้สึกนิ่ม ๆ เหมือนก้อนไขมัน
• วิธีแก้ไข: การรักษาที่ได้ผลมักต้องอาศัยหัตถการทางการแพทย์ เช่น การผ่าตัดนำไขมันออก หรือการใช้เลเซอร์กระชับผิว

ถุงใต้ตาเทียม

• สาเหตุ: เกิดจากการบวมน้ำหรือการคั่งของของเหลวใต้ผิวหนังชั่วคราว มีปัจจัยกระตุ้นจากพฤติกรรม เช่น การพักผ่อนน้อย ภูมิแพ้ การร้องไห้ หรือทานอาหารรสเค็มจัด
• ลักษณะ: มีอาการบวมตุ่ย ไม่เป็นก้อนชัดเจนเท่าแบบแท้ และเป็น ๆ หาย ๆ มักจะบวมมากในช่วงเช้าและค่อย ๆ ยุบลงระหว่างวัน
• วิธีแก้ไข: สามารถดีขึ้นได้ด้วยการปรับพฤติกรรม เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ ประคบเย็น หรือใช้ผลิตภัณฑ์ลดบวมรอบดวงตา

ถุงใต้ตากับดอลลี่อาย ใช่แบบเดียวกันหรือไม่

ถุงใต้ตาคือสัญญาณของความเหนื่อยล้าหรือวัยที่เพิ่มขึ้นที่คนส่วนใหญ่อยากกำจัดออกไป ในขณะที่ดอลลี่อายเป็นลักษณะของกล้ามเนื้อที่ทำให้ดวงตาดูหวานและอ่อนเยาว์ ซึ่งเป็นที่นิยมในเทรนด์ความงามจนหลายคนอยากมี

เจาะลึกสาเหตุหลักของการเกิดถุงใต้ตา

การเกิดถุงใต้ตาไม่ได้มีสาเหตุมาจากการนอนน้อยเพียงอย่างเดียว แต่เป็นผลลัพธ์ที่ซับซ้อนจากปัจจัยเชิงโครงสร้างและพฤติกรรมการใช้ชีวิตร่วมกัน การทำความเข้าใจสาเหตุหลักเหล่านี้จะช่วยให้เรารับมือกับปัญหาได้อย่างตรงจุดยิ่งขึ้น

อายุที่เพิ่มขึ้น (ความเสื่อมตามวัย)

สาเหตุหลักและพบได้บ่อยที่สุด เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินน้อยลง ทำให้ผิวหนังขาดความยืดหยุ่นและเริ่มหย่อนคล้อย ประกอบกับกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อพังผืดที่ทำหน้าที่พยุงไขมันในเบ้าตา อ่อนแอลง ทำให้ไขมันเคลื่อนตัวออกมาสะสมจนเกิดเป็นถุงใต้ตาที่เห็นได้ชัดเจน

พันธุกรรม

โครงสร้างใบหน้าและลักษณะของผิวใต้ตาเป็นสิ่งที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ หากคนในครอบครัวมีประวัติเป็นถุงใต้ตา ก็มีแนวโน้มสูงที่คุณจะพบเจอปัญหานี้เช่นกัน แม้จะอายุยังน้อยก็ตาม เนื่องจากอาจมีปริมาณไขมันใต้ตามากหรือโครงสร้างผิวอ่อนแอกว่าปกติมาโดยกำเนิด

พฤติกรรมการใช้ชีวิตและปัจจัยกระตุ้น

พฤติกรรมบางอย่างอาจไม่ได้เป็นสาเหตุโดยตรงของถุงใต้ตาแท้ แต่เป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้ถุงใต้ตาบวมชัดขึ้น หรือทำให้เกิดถุงใต้ตาเทียมได้ เช่น

• การพักผ่อนไม่เพียงพอ: ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดและน้ำเหลืองทำงานได้ไม่ดี เกิดการคั่งของของเหลวบริเวณใต้ตา
• การบริโภคโซเดียมสูง: การทานอาหารรสเค็มจัด ทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำไว้มากขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าและบริเวณใต้ตาบวมได้ง่าย
• ภูมิแพ้: อาการแพ้กระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารฮีสตามีน ทำให้หลอดเลือดขยายตัวและเกิดการบวม การขยี้ตาบ่อย ๆ ยังเป็นการทำร้ายผิวและทำให้เกิดความหย่อนคล้อยได้อีกด้วย
• การสูบบุหรี่และแสงแดด: เป็นตัวการสำคัญที่ทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ทำให้ผิวเสื่อมสภาพและเกิดความหย่อนคล้อยก่อนวัยอันควร

วิธีแก้ถุงใต้ตาเบื้องต้น ที่ทำได้ด้วยตัวเอง

สำหรับผู้ที่เผชิญปัญหาถุงใต้ตาในระยะเริ่มต้นหรือถุงใต้ตาเทียมที่เกิดจากพฤติกรรม การดูแลตัวเองเบื้องต้นสามารถช่วยลดอาการบวมและทำให้ถุงใต้ตาดูจางลงได้อย่างเห็นผล วิธีเหล่านี้เน้นการปรับไลฟ์สไตล์และใช้เทคนิคง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน

• ประคบเย็น: ความเย็นจะช่วยให้หลอดเลือดบริเวณใต้ตาหดตัวและลดอาการบวมได้อย่างรวดเร็ว สามารถใช้ช้อนแช่เย็น เจลแพ็คสำหรับดวงตา หรือผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นจัด มาวางประคบบริเวณใต้ตาสัก 10-15 นาทีในตอนเช้า
• นอนหนุนหมอนสูง: การใช้หมอน 2 ใบหนุนศีรษะให้สูงขึ้นกว่าปกติในขณะนอนหลับ จะช่วยป้องกันไม่ให้ของเหลวไหลไปรวมตัวหรือคั่งค้างอยู่ที่บริเวณใต้ตาตามแรงโน้มถ่วง
• ดื่มน้ำให้เพียงพอและลดโซเดียม: การดื่มน้ำมาก ๆ ช่วยขับของเหลวส่วนเกินออกจากร่างกาย ในขณะที่การลดอาหารรสเค็มจัดหรือมีโซเดียมสูง จะช่วยป้องกันการกักเก็บน้ำในร่างกายซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอาการบวม
• ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงรอบดวงตาที่เหมาะสม: เลือกใช้อายครีมที่มีส่วนผสมช่วยลดบวมและกระชับผิว เช่น คาเฟอีน ชาเขียว วิตามินซี หรือเปปไทด์ ควรทาด้วยความอ่อนโยนโดยใช้นิ้วนางค่อย ๆ แตะเบา ๆ
• นวดกระตุ้นการไหลเวียน: ใช้นิ้วนางนวดเบา ๆ จากหัวตาไปยังหางตา เพื่อช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดและน้ำเหลืองให้ทำงานได้ดีขึ้น ลดการคั่งของของเหลวใต้ผิวหนัง

หัตถการลดถุงใต้ตา ทางเลือกสำหรับคนไม่อยากผ่าตัด

สำหรับผู้ที่รู้สึกว่าการดูแลตัวเองเบื้องต้นยังไม่เพียงพอที่จะจัดการกับปัญหาถุงใต้ตาที่เห็นได้ชัด แต่ยังไม่อยากตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัด ปัจจุบันมีหัตถการทางการแพทย์หลายอย่างที่เป็นทางเลือกที่น่าสนใจโดยไม่ต้องใช้มีดและไม่ต้องพักฟื้นนาน เช่น

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างสูง โดยแพทย์จะใช้สารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูรอนิก ฉีดเข้าไปบริเวณร่องน้ำตา ซึ่งเป็นร่องลึกที่อยู่ใต้ถุงไขมัน การเติมเต็มในส่วนนี้จะช่วยพยุงผิวให้เรียบเนียนขึ้น ทำให้รอยต่อระหว่างถุงใต้ตากับแก้มดูตื้นขึ้นทันที ส่งผลให้ถุงใต้ตาที่เคยนูนเด่นดูจางลงและใบหน้าโดยรวมดูสดใสอ่อนเยาว์ขึ้น

การใช้เครื่องมือยกกระชับ

เทคโนโลยีกลุ่มนี้ใช้พลังงานคลื่นเสียงความถี่สูง (โปรแกรม Ultraformer/Ulthera) หรือพลังงานคลื่นวิทยุ (โปรแกรม Thermage) ส่งผ่านลงไปใต้ชั้นผิว เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ พร้อมทั้งช่วยให้ผิวชั้นลึกเกิดการหดตัว วิธีนี้จะเน้นการกระชับผิวที่หย่อนคล้อยบริเวณใต้ตาให้เต่งตึงขึ้น เมื่อผิวแน่นขึ้นก็จะช่วยพยุงและเก็บไขมันใต้ตาได้ดีขึ้น ทำให้ถุงใต้ตาดูเล็กลงและเรียบเนียนขึ้น ผลลัพธ์จะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับและอยู่ได้นาน

โปรแกรมเลเซอร์ลดถุงใต้ตา

การใช้โปรแกรมเลเซอร์เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวรอบดวงตา โดยเลเซอร์บางชนิดสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังแท้ ทำให้ผิวใต้ตาที่บางและหย่อนคล้อยมีความหนาและกระชับขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยปรับสภาพผิว ลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ซึ่งส่งผลโดยรวมให้บริเวณใต้ตาดูเรียบเนียนและถุงใต้ตาดูเด่นน้อยลง

การผ่าตัดถุงใต้ตา เพื่อลดปัญหาได้ยาวนานยิ่งขึ้น

การผ่าตัดถุงใต้ตา เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตาแท้ที่เกิดจากไขมันสะสมนูนออกมาอย่างชัดเจนร่วมกับความหย่อนคล้อยของผิวหนัง ซึ่งการรักษาด้วยวิธีอื่นอาจไม่เห็นผลเท่าที่ควร มีข้อดีหลายอย่างดังเช่น

• กำจัดถุงใต้ตาที่นูนป่องได้: สามารถนำไขมันส่วนเกินที่เป็นสาเหตุของถุงใต้ออกไปหรือจัดเรียงใหม่ ทำให้ผิวบริเวณใต้ตาที่เคยนูนป่องกลับมาเรียบเนียน
• ลดความหย่อนคล้อยของผิวใต้ตา: ในกระบวนการผ่าตัด ศัลยแพทย์สามารถตัดแต่งผิวหนังส่วนเกินที่หย่อนยานออกไปได้พร้อมกัน ช่วยให้ผิวใต้ตากลับมาตึงกระชับขึ้น
• ริ้วรอยเล็ก ๆ ดูตื้นขึ้น: เมื่อผิวหนังถูกทำให้ตึงกระชับขึ้น จะส่งผลพลอยได้ให้ริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณใต้ตาดูจางและตื้นขึ้นด้วย
• ผลลัพธ์คงอยู่ยาวนาน: เนื่องจากการผ่าตัดเป็นการแก้ปัญหาที่โครงสร้างโดยตรง จึงให้ผลลัพธ์ที่ถาวรและยาวนานกว่าวิธีอื่น ๆ ไม่ต้องกลับมาทำซ้ำบ่อย ๆ
• ใบหน้าโดยรวมดูสดใสและอ่อนเยาว์: การกำจัดถุงใต้ตาที่ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและมีอายุออกไป จะช่วยให้ดวงตากลับมาสดใส ส่งผลให้ภาพรวมของใบหน้าดูอ่อนกว่าวัยและมีชีวิตชีวาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

สรุปแนวทางการดูแลและรักษาปัญหาถุงใต้ตา

ไม่ว่าคุณจะเผชิญกับถุงใต้ตาแท้หรือถุงใต้ตาเทียม การทำความเข้าใจสาเหตุและเลือกวิธีแก้ไขที่ตรงจุดคือหัวใจสำคัญที่สุด ตั้งแต่การปรับพฤติกรรมไปจนถึงการปรึกษาแพทย์เพื่อให้คุณสามารถบอกลาความเหนื่อยล้าและคืนความสดใสให้กับดวงตาได้อีกครั้ง หากท่านใดสนใจลดถุงใต้ตาไม่ว่าจะด้วยวิธีผ่าตัดหรือไม่ผ่าตัด สามารถสอบถามเพิ่มเติมหรือปรึกษาแพทย์กับเราก่อนได้ ที่ช่องทางดังต่อไปนี้ค่ะ

ช่องทางการติดต่อ

• Tel : 080-500-0123
• Line : @apexbeauty
• Tiktok : apexprofoundbeauty
• Facebook : APEX Hospital & Beauty Clinic
• Instagram : apexbeauty
• Youtube : Apex Beauty Clinic
• X (Twitter) : ApexProfound

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัท ฯ กำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับ APEX Surgery Hospital : โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเอเพ็กซ์ สาขาเพลินจิต