ดูดไขมันเอว ลดเอวห่วงยาง คืนรูปร่างให้กระชับ

ดูดไขมันเอว

เคยรู้สึกท้อใจไหม… กับการพยายามกำจัดไขมันรอบเอว หรือที่หลายคนเรียกว่า ‘ห่วงยาง’ เจ้าปัญหา ที่ดูเหมือนจะเป็นไขมันส่วนที่ดื้อด้านที่สุดในร่างกาย ทั้งที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและควบคุมอาหารอย่างดี แต่เจ้าห่วงยางก็ยังคงอยู่ ทำให้ขาดความมั่นใจในการแต่งตัวและบั่นทอนความตั้งใจในการดูแลรูปร่าง

แต่คุณรู้หรือไม่ว่ามี วิธีบอกลาปัญหานี้นั่นคือ ดูดไขมันเอว ที่จะช่วยสลายไขมันเฉพาะจุด ปั้นเอวให้คอดสวย และคืนความมั่นใจให้คุณอีกครั้ง บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับการดูดไขมันเอวให้มากขึ้น ว่าคืออะไร และช่วยแก้ปัญหาเอวห่วงยางได้อย่างไรบ้าง

สารบัญดูดไขมันเอว

ดูดไขมันเอว คืออะไร

ดูดไขมันเอว (Waist Liposuction) คือ ศัลยกรรมเพื่อการปรับรูปร่าง โดยใช้เครื่องมือทางการแพทย์เข้าไปสลายและดูดเอาไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่บริเวณรอบเอวและสีข้างออกไปเป็นการรักษาที่ต้นเหตุ เป้าหมายหลักไม่ใช่การลดน้ำหนัก แต่เป็นการลดสัดส่วน และกำจัดไขมันดื้อด้านที่ไม่ยอมหายไปแม้จะควบคุมอาหารหรือออกกำลังกายอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม

ดูดไขมันเอว ช่วยแก้ปัญหาเอวห่วงยางได้อย่างไร

ปัญหาเอวห่วงยาง หรือไขมันที่ปลิ้นออกมาบริเวณขอบกางเกง เป็นปัญหาที่สร้างความกังวลใจให้หลายคน การดูดไขมันเอวจะเข้ามาแก้ปัญหานี้โดยตรง โดยการกำจัดเซลล์ไขมันในบริเวณนั้นออกไป ทำให้ได้ผลลัพธ์ดังนี้

  • กำจัดเซลล์ไขมันต้นตอ : การดูดไขมันจะใช้ท่อขนาดเล็กสอดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อสลาย ทำให้จำนวนเซลล์ไขมันในบริเวณนั้นลดลงอย่างชัดเจน
  • สร้างเอวคอด (S-Curve) : เมื่อกำจัดไขมันด้านข้างและด้านหลังออกไป จะทำให้เกิดส่วนเว้าโค้งของเอวที่ชัดเจนขึ้น รูปร่างดูมีมิติและสมส่วน
  • ลำตัวดูเพรียวบางลง : การกำจัดไขมันที่สะสมรอบเอว ช่วยให้ลำตัวโดยรวมดูเล็กลง ใส่เสื้อผ้าได้สวยงามและมั่นใจยิ่งขึ้น
  • การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ : การดูดไขมันเอวคือการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ สามารถกำหนดบริเวณที่ต้องการกำจัดไขมันได้ค่อนข้างแม่นยำ
ดูดไขมันเอว เหมาะกับใคร

ใครบ้างที่เหมาะกับการดูดไขมันหน้า

การดูดไขมันเอวไม่ใช่การลดน้ำหนักสำหรับทุกคน แต่เป็นหัตถการในการปรับรูปร่างสำหรับคนบางกลุ่มโดยเฉพาะ หากคุณกำลังสงสัยว่าตัวเองเป็นหนึ่งในนั้นหรือไม่ ลองมาเช็กกันว่าคุณมีคุณสมบัติตรงกับผู้ที่เหมาะกับการดูดไขมันเอวหรือไม่

  • ผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมบริเวณรอบเอวและสีข้าง
  • ผู้ที่ออกกำลังกายและคุมอาหารแล้วแต่เอวไม่ลด
  • ผู้ที่ต้องการสร้างส่วนเว้าโค้งให้ชัดเจน
  • ผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงและผิวหนังยืดหยุ่นดี

เทคโนโลยีการดูดไขมันเอว มีแบบไหนบ้าง?

ในปัจจุบัน เทคโนโลยีการดูดไขมันได้พัฒนาไปไกลมาก ทำให้การกำจัดไขมันห่วงยางที่เอวค่อนข้างปลอดภัย บอบช้ำน้อย และฟื้นตัวใช้ระยะเวลาไม่นาน โดยแต่ละเทคโนโลยีจะใช้พลังงานในรูปแบบที่แตกต่างกันเพื่อเข้าสลายไขมัน มีดังนี้

โปรแกรม Vaser Liposuction

เป็นเทคโนโลยีที่ใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ (Ultrasound) เข้าไปสลายก้อนไขมันให้แตกตัวกลายเป็นของเหลวอย่างจำเพาะเจาะจง โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อสำคัญรอบๆ เช่น เส้นเลือดและเส้นประสาท ทำให้เสียเลือดน้อย ระยะเวลาพักฟื้นไม่นาน และยังสามารถปั้นแต่งรูปร่างให้มีส่วนเว้าโค้งที่คมชัดได้ดี

โปรแกรม BodyTite

โดดเด่นด้วยการใช้พลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency – RF) ในการสลายไขมันพร้อมกับยกกระชับผิวได้ในขั้นตอนเดียว ความร้อนจากคลื่น RF จะช่วยละลายไขมันและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวบริเวณเอวเฟิร์มกระชับ ไม่หย่อนคล้อยหลังทำ เหมาะกับผู้ที่กังวลเรื่องความย้วยของผิวเป็นพิเศษ

โปรแกรม SlimLipo

ใช้พลังงานจากเลเซอร์ ซึ่งมีหัวขนาดเล็กมากในการสลายไขมัน ทำให้เข้าถึงพื้นที่เล็กๆ และดูดไขมันได้อย่างละเอียดอ่อน พลังงานเลเซอร์จะช่วยละลายไขมันให้ดูดออกได้ง่าย และยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวได้เล็กน้อย เหมาะกับการเก็บรายละเอียดในบริเวณที่ต้องการความแม่นยำ

โปรแกรม Body Jet

การดูดไขมันด้วยพลังงานน้ำ (Water-Assisted Liposuction) โดยการพ่นน้ำเป็นสายรูปพัดเพื่อแยกเซลล์ไขมันออกจากเนื้อเยื่ออย่างนุ่มนวลที่สุด ไม่มีการใช้ความร้อน ทำให้เนื้อเยื่อบอบช้ำน้อยมาก และเซลล์ไขมันที่ได้ยังมีคุณภาพดี สามารถนำไปเติมเต็มส่วนอื่นๆ ของร่างกายต่อได้

ขั้นตอนการดูดไขมันเอว เตรียมตัวอย่างไรให้พร้อม

เพื่อให้การดูดไขมันเอวเป็นไปอย่างราบรื่น การทำความเข้าใจในแต่ละขั้นตอนถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณเตรียมตัวได้อย่างมั่นใจ โดยกระบวนการดูดไขมันจะมีขั้นตอนหลักๆ ดังนี้

  1.  ปรึกษาแพทย์และวางแผน
    ขั้นตอนแรกและสำคัญที่สุด คือการเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินโครงสร้างร่างกาย ปริมาณไขมัน และความยืดหยุ่นของผิว แพทย์จะช่วยวางแผนการรักษาที่เหมาะสม เพื่อให้ได้รับการดูแลที่ปลอดภัยสำหรับคุณโดยเฉพาะ
  2. การให้ยาระงับความรู้สึก
    ในวันผ่าตัด แพทย์จะให้ยาชาเฉพาะที่ร่วมกับยานอนหลับ หรือวางยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ โดยขึ้นอยู่กับแผนการรักษา เพื่อให้คุณไม่รู้สึกเจ็บและผ่อนคลายตลอดกระบวนการ
  3. เปิดแผลขนาดเล็ก
    แพทย์จะเปิดแผลขนาดเล็กมาก ประมาณ 3-5 มิลลิเมตร ในตำแหน่งที่สามารถซ่อนรอยแผลได้ง่าย เช่น ขอบบิกินีหรือในสะดือ เพื่อใช้เป็นช่องทางสำหรับสอดเครื่องมือเข้าไป
  4. สลายและดูดไขมันออก
    แพทย์จะสอดเครื่องมือตามเทคโนโลยีที่เลือกเข้าไปเพื่อสลายไขมันให้กลายเป็นของเหลว จากนั้นจึงใช้ท่อดูดขนาดเล็ก (Cannula) ดูดไขมันส่วนเกินบริเวณเอวและสีข้างออกมาอย่างนุ่มนวล
  5. ปิดแผลและสวมชุดกระชับ
    เมื่อดูดไขมันออกตามแผนแล้ว แพทย์จะเย็บปิดแผล และคุณจะต้องสวมชุดกระชับสัดส่วนทันที เพื่อลดอาการบวม ช่วยให้ผิวหนังแนบสนิทกับกล้ามเนื้อ และทำให้รูปร่างเข้าที่เร็วขึ้น

การเตรียมตัวก่อนดูดไขมันเอว

การเตรียมความพร้อมก่อนเข้ารับการผ่าตัดดูดไขมัน เป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญต่อการรักษา เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน และส่งเสริมกระบวนการฟื้นฟูร่างกายให้ราบรื่น ดังนั้น ควรปฏิบัติตามการเตรียมตัว 5 ข้อต่อไปนี้

  • งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ ควรงดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพราะจะทำให้แผลหายช้า
  • หยุดยาและวิตามินที่เสี่ยงต่อการเสียเลือด เช่น กลุ่มแอสไพริน น้ำมันปลา อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
  • งดน้ำและอาหารก่อนผ่าตัด 8 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการสำลักอาหารเข้าปอด
  • ควรมีคนคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะหลังผ่าตัดจะช่วยเหลือตนเองได้ไม่เต็มที่
  • เลือกชุดที่สวมใส่ง่าย ไม่รัดแน่นบริเวณแผลหรือลำตัว เพื่อลดการเสียดสี
ดูดไขมันเอว

การดูแลตัวเองหลังดูดไขมันเอว

การดูดไขมันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการมีเอว S ที่สวยงาม แต่การที่จะทำให้ผลลัพธ์ออกมาดี ลดอาการบวมช้ำ และฟื้นตัวได้เร็วขึ้น คือการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีในช่วงพักฟื้น ซึ่งมีข้อปฏิบัติต่างๆ ดังนี้

  • ดูแลแผลผ่าตัดให้สะอาดและแห้งอยู่เสมอ ตามคำแนะนำของแพทย์
  • ชุดกระชับสำคัญมากควรใส่เป็นเวลา 24 ชั่วโมงในช่วงเดือนแรก
  • ประคบเย็นในช่วง 2-3 วันแรกเพื่อลดอาการบวม ช้ำ บริเวณที่ทำ
  • งดอาหารรสเค็มจัด ของหมักดอง และแอลกอฮอล์เพื่อลดอาการบวม

ผลลัพธ์หลังดูดไขมันเอว เป็นอย่างไร?

หลังจากผ่านขั้นตอนการดูดไขมันและการดูแลตัวเองมาแล้ว หลายคนอยากรู้ว่าเมื่อไหร่จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน การเปลี่ยนแปลงของรูปร่างหลังดูดไขมันเอวจะค่อยๆ เกิดขึ้นตามลำดับเวลา เนื่องจากร่างกายต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวและปรับสภาพ ซึ่งสามารถแบ่งไทม์ไลน์ของผลลัพธ์ได้ดังนี้

  • หลังทำทันที : มีบวมช้ำจากการผ่าตัด แต่จะสามารถสังเกตได้ว่าไขมันหายไป
  • ช่วง 1-2 สัปดาห์แรก : อาการบวมเริ่มลดลง เริ่มมองเห็นสัดส่วนของเอวได้ชัดเจน
  • ช่วง 1-3 เดือน : รูปร่างเริ่มเข้าที่และคมชัด ผิวจะเริ่มกระชับเข้ากับรูปร่างใหม่
  • ช่วง 3-6 เดือน : ร่างกายฟื้นตัวเต็มที่ เห็นผลลัพธ์เอวเข้าที่ได้ชัดที่สุด

ความเสี่ยงหลังดูดไขมันเอว

แม้ว่าการดูดไขมันเอวจะเป็นหัตถการที่ค่อนข้างปลอดภัย แต่ก็ถือเป็นการผ่าตัดชนิดหนึ่งซึ่งย่อมมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ การทำความเข้าใจความเสี่ยงเหล่านี้ล่วงหน้าจะช่วยให้สามารถสังเกตอาการและดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้องเพื่อผลลัพธ์ที่ดี

  • อาการบวม ช้ำ เป็นอาการปกติที่พบได้บ่อยที่สุดหลังการผ่าตัด ซึ่งจะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ การสวมชุดกระชับและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์จะช่วยบรรเทาอาการได้ดี
  • ผิวหนังไม่เรียบ เป็นคลื่น หรือหย่อนคล้อย อาจเกิดขึ้นได้หากผิวขาดความยืดหยุ่นหรือในกรณีที่ดูดไขมันออกไปในปริมาณมาก การนวดและเทคโนโลยีช่วยยกกระชับสามารถช่วยลดปัญหานี้ได้
  • อาการชาหรือความรู้สึกเปลี่ยนแปลงบริเวณผิวหนัง เป็นผลจากเส้นประสาทขนาดเล็กได้รับผลกระทบชั่วคราว โดยส่วนใหญ่อาการจะค่อยๆ กลับมาเป็นปกติภายในเวลาไม่กี่เดือน
  • การติดเชื้อ แม้จะพบได้น้อย แต่เป็นความเสี่ยงที่ต้องระวัง สังเกตได้จากอาการปวด บวม แดงร้อนผิดปกติ หรือมีไข้ การดูแลความสะอาดแผลจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
  • การเกิดถุงน้ำใต้ผิวหนัง คือการสะสมของของเหลวในบริเวณที่เคยมีไขมันอยู่ หากคลำเจอก้อนนิ่มๆ หรือรู้สึกว่ามีน้ำขัง ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อทำการเจาะระบายออก
ดูดไขมันเอว ข้อควรระวัง

ข้อควรรระวังก่อนตัดสินใจดูดไขมันเอว

แม้การดูดไขมันเอวจะเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมและค่อนข้างปลอดภัย แต่การเตรียมตัวและทำความเข้าใจในข้อควรระวังต่างๆ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นให้เหลือน้อยที่สุด

  • เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ทั้งก่อนและหลังผ่าตัดอย่างเคร่งครัด
  • ควรควบคุมอาหารและออกกำลังกาย เพื่อป้องกันไม่ให้ไขมันกลับมาสะสม
  • แจ้งข้อมูลสุขภาพและประวัติการแพ้ยาให้ครบถ้วน
  • ทำความเข้าใจในผลลัพธ์ ที่อาจขึ้นอยู่กับโครงสร้างและสภาพผิวของแต่ละบุคคล

ราคาการดูดไขมันเอว

หนึ่งในคำถามสำคัญสำหรับผู้ที่สนใจดูดไขมันเอวคือเรื่องของค่าใช้จ่าย ซึ่งราคาของการทำหัตถการนี้ไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขที่ตายตัวได้ เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้น เพื่อการตัดสินใจและวางแผนงบประมาณที่รัดกุมที่สุด การทำความเข้าใจองค์ประกอบของราคาจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ราคาจะแตกต่างกันไปตามปัจจัยแวดล้อมและเทคนิค
ค่าใช้จ่ายจะผันแปรตามปัจจัยต่างๆ เช่น ชื่อเสียงของสถานพยาบาล, ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของแพทย์, เทคโนโลยีหรือเครื่องมือที่เลือกใช้ (เช่น Vaser, BodyTite), รวมถึงปริมาณไขมันและขอบเขตของบริเวณที่ต้องการดูดออก

ควรสอบถามราคาและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อความโปร่งใส ควรสอบถามให้แน่ใจว่าราคาที่ได้รับเป็นราคาที่รวมทุกอย่างแล้วหรือไม่ เช่น ค่ายา, ค่าวิสัญญีแพทย์, ค่าห้องพักฟื้น, และค่าชุดกระชับ เพื่อให้คุณสามารถวางแผนงบประมาณได้อย่างถูกต้องและไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝงตามมาภายหลัง

อัปเดตราคา ดูดไขมันเอว ที่ APEX

  • Size S (BMI ไม่เกิน 22) 99,000 บาท
  • Size M (BMI ไม่เกิน 24) 109,000 บาท
  • Size L (BMI ไม่เกิน 26) 119,000 บาท

รีวิวดูดไขมันเอว

ดูดไขมันหน้าท้อง รีวิว
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล ใช้เป็นตัวอย่างผลจากการเข้ารับรักษาสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย

สรุป ดูดไขมันเอว แก้ปัญหาเอวห่วงยาง

การดูดไขมันเอวคือคำตอบที่ตรงจุดสำหรับปัญหาเอวห่วงยาง ที่กำจัดได้ยากด้วยวิธีอื่น เพราะเป็นการเข้าไปสลายและกำจัดเซลล์ไขมันต้นตอออกไปอย่างชัดเจน ช่วยปั้นเอวให้คอดสวย สร้างส่วนเว้าโค้งแบบ S-Curve ได้อย่างชัดเจนและรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ดีต้องอาศัยการเลือกศัลยแพทย์ผู้มีประสบการณ์และเทคนิคที่เหมาะสม ควบคู่ไปกับการดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัดหลังทำ เพื่อรักษารูปร่างให้สวยงามสมส่วนและคืนความมั่นใจได้อย่างยาวนาน

สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาในการดูดไขมันไขมันเอว หรือสอบถามรายละเอียดของหัตถการอื่น ๆ ของ APEX เพิ่มเติมได้ที่

ช่องทางการติดต่อ

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับ APEX Surgery Hospital เพลินจิต

รับคำปรึกษาฟรี
เมื่อลงทะเบียนถือว่าท่านยอมรับ เงื่อนไขการใช้บริการ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว